กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 23 กรกฎาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,094.00-1,105.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,200 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,050 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ15 อยู่ที่ 18,280 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 180 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,100 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.13 น.ของวันที่ 23/07/15)
แนวโน้มวันที่ 24 กรกฎาคม 2558
แนวโน้มความผันผวนที่ลดลงของตลาดหุ้นถือเป็นสัญญาณที่ดีทำให้นักลงทุนคลายวิตกและส่งผลเชิงบวกกับตลาดทองคำ มาตรการพยุงตลาดของทางการจีน ผ่านการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือ, คำสั่งห้ามขายหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่และข้อจำกัดการทำชอร์ตเซล ร่วมถึงบริษัทไชน่า ซีเคียวริตีส์ ไฟแนนซ์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้เพื่อซื้อหุ้นได้เปิดเผยกับสื่อว่า บริษัทจะยังคงเข้าพยุงตลาดต่อไปเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนชาวจีนสูงขึ้น สถานการณ์ดังกล่าวได้สร้างโอกาสให้แรงซื้อเพิ่มขึ้นกลับเข้าสู่ตลาดทองคำอย่างไรก็ตาม ความไม่เชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของจีนอาจกระทบต่ออุปสงค์ทองคำให้อยู่ในระดับต่ำ ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนผ่านแรงขายที่เบาบางลงแต่แรงซื้อก็ยังคงไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก ขณะที่ราคาทองคำถูกกดดันเพิ่มขึ้นจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีทิศทางที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินในตะกร้าหลัก หลังจากยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 8 ปีครึ่งในเดือนมิถุนายน โดยพุ่งขึ้นสู่ระดับ 5.49 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2007 นักลงทุนได้เพิ่มความระวังในสะสมทองคำเพิ่มก่อนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนมิถุนายนในวันศุกร์นี้ เพราะหากข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องจะสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนกันยายนนี้ และนักลงทุนยังคงจับการประชุมเฟดที่จะมีขึ้นในวันที่ 28-29 กรกฎาคมนี้ด้วย ทิศทางแนวโน้มของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นและมีโอกาสปรับตัวขึ้นค่าขึ้นต่อไปได้อีก ได้ส่งผลลบต่อตลาดทองคำ เห็นได้จากเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา แนะนำนักลงทุนว่าการรอจังหวะซื้อเมื่อว่าราคาทองคำจะไหลลงสู่แนวรับสำคัญน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ นักลงทุนควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,090-1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,110-1,115 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,090 (17,890บาท) 1,080 (17,730บาท) 1,060 (17,400บาท)
แนวต้าน 1,115 (18,310บาท) 1,125 (18,470บาท) 1,135 (18,640บาท)
GOLD FUTURES (GFQ15)
แนวรับ 1,090 (18,060บาท) 1,080 (17,890บาท) 1,060 (17,560บาท)
แนวต้าน 1,115 (18,470บาท) 1,125 (18,640บาท) 1,135 (18,800บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148