กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--แอร์เอเชีย
นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ เปิดเผยภายในโอกาสเป็นสักขีพยานลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจัดตั้ง “ศูนย์บริการส่งออกสินค้าเกษตรแบบเบ็ดเสร็จ”(Export Agricultural Products Quarantine One Stop Service) ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยนายสมชาย ชาญณรงค์กุล รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด โดย นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด เป็นผู้ลงนาม ว่า รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย จัดตั้ง “ศูนย์บริการส่งออกสินค้าเกษตรแบบเบ็ดเสร็จ” ขึ้น เพื่อพัฒนาระบบบริการขนส่งสินค้าทางอากาศ เพื่อสนับสนุนการส่งออกสินค้าภาคการเกษตรไปสู่ตลาดอาเซียนและตลาดโลก โดยการขนส่งสินค้าทางอากาศที่รวดเร็วซึ่งจะเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันของผู้ประกอบการ เนื่องจากสินค้าภาคการเกษตร ประเภท พืช ผัก ผลไม้ และอาหาร จะต้องใช้ความรวดเร็วในการขนส่งเพื่อรักษาคุณภาพของสินค้า และเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการส่งออก
โดยกระทรวงเกษตรฯ จะจัดตั้งจุดให้บริการตรวจสอบรับรองสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออก จาก 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมวิชาการเกษตร กรมประมง และกรมปศุสัตว์ ซึ่งให้การรับรองสินค้าเกษตรทั้งด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ มารวมไว้ที่ “ศูนย์บริการส่งออกสินค้าเกษตรแบบเบ็ดเสร็จ” ณ จุดเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสอบรับรองสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออก ขณะเดียวกัน กระทรวงเกษตรฯ จะทำการเชื่อมต่อระบบผลการตรวจสอบรับรองจากห้องปฏิบัติการ (Lab) ของแต่ละหน่วยงานให้สามารถออกใบรับรองส่งออกได้ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งโดยเฉลี่ยสามารถดำเนินการออกใบรับรองได้ประมาณ 2 – 3 วัน ตามแต่ชนิดสินค้าซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนให้ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรเกิดความสะดวก ลดต้นทุน และร่นระยะเวลาในการให้บริการในการขนส่งสินค้าเกษตรได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสหกรณ์หรือผู้ประกอบการรายย่อยที่จะสามารถเพิ่มช่องทางการตลาดไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียน หรือในตลาดต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น
สำหรับบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด จะให้การสนับสนุนการปรับปรุงอาคารคลังสินค้าให้รองรับการจัดตั้งศูนย์บริการฯ และระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบุคลากรสนับสนุนการทำงาน จาก บจ. เทคโนโลยี เอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท ไทยแอร์เอเชียจำกัด ให้เป็นผู้ดำเนินการในระบบบริหารจัดการ ระบบเครื่องมือ กำลังคน ต่างๆ ให้เบ็ดเสร็จในจุดเดียว ขณะที่ด้านการส่งออกสินค้าเกษตร เราก็จะใช้อาคารคลังสินค้า(CARGO) และเครือข่ายการบินของ บริษัทไทยแอร์เอเชีย จำกัด เป็นผู้ส่งดำเนินการขนส่งสินค้า ซึ่งจะรวมถึงผู้ประกอบการขนส่งรายอื่นๆ ด้วย
“ หลังจากการลงนามข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้แล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด จะทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ ในการจัดตั้งศูนย์บริการส่งออกสินค้าเกษตรแบบเบ็ดเสร็จให้แล้วเสร็จ โดยคาดว่าจะเสร็จประมาณ 3 เดือน นับจากทางท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองส่งมอบพื้นที่ โดยคาดว่าศูนย์ฯ ดังกล่าวน่าจะมีความพร้อมในการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการประมาณเดือนตุลาคม 2558นี้เป็นต้นไป” นายปีติพงศ์ กล่าว
ด้านนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัดกล่าวว่า บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด รู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในภารกิจระดับชาติครั้งนี้โดยเราจะเป็นผู้ปรับปรุงสถานที่ เครื่องมือหลักและระบบสารสนเทศ รวมทั้งทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และยังคงมาตรการการตรวจสอบไว้ในระดับสากล เพื่อให้การส่งออกสินค้าเกษตรเบ็ดเสร็จได้ในจุดเดียว
“ไทยแอร์เอเชียจะใช้ศักยภาพของเราในการมีเครือข่ายบินที่ครอบคลุมทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศทั่วอาเซียนและประเทศจีน รวมทั้งการมีความถี่บินต่อวันที่มากในทุกๆ เส้นทาง โดยปัจจุบันไทยแอร์เอเชียมีให้บริการเส้นทางระหว่างประเทศ 27 เส้นทาง และภายในประเทศ 24 เส้นทาง มีจำนวนเที่ยวบินต่อวันรวมมากกว่า 140 เที่ยวบิน ซึ่งเราเชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์ด้านการส่งออกสินค้าเกษตรครั้งนี้ได้อย่างดี” นายธรรศพลฐ์ กล่าว