กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--IR network
บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) เดินมาครึ่งทาง! พอใจทำผลงานโตตามเป้า มั่นใจครึ่งปีหลังธุรกิจยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง เหตุออเดอร์ถ่านหินจากลูกค้าหลักทั้งจีน อินเดีย และเกาหลีใต้ไม่ขาดมือ "ขจรพงศ์ คำดี" ระบุพลังงานถ่านหินยังเป็นที่ต้องการ พร้อมเดินหน้าลุยธุรกิจเติบโตอย่างมีศักยภาพ หนุนยอดจัดจำหน่ายถ่านหินปีนี้เป็นไปตามเป้าที่ 10 ล้านตัน ส่วน Gross Margin รักษาไว้ที่ระดับ 15-20%
นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของบริษัทเชื่อว่าจะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยประเมินว่าธุรกิจพลังงานถ่านหินในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบการในหลายอุตสาหกรรมยังคงมีความต้องการที่จะลดต้นทุนทางการผลิตลง ถ่านหินจึงยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ประกอบกับบริษัทยังเน้นจัดจำหน่ายถ่านหินให้กับผู้บริโภคถ่านหินรายใหญ่ในภูมิภาคทั้งประเทศจีน อินเดีย และเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นรายได้หลักที่ทำให้ EARTH ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังบริษัทยังคงเดินหน้าผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยเน้นตลาดหลักที่มีความต้องการใช้ถ่านหินอย่างประเทศจีน อินเดีย และเกาหลีใต้ เนื่องจากลูกค้ากลุ่มดังกล่าวยังคงมีคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทยังมีขีดความสามารถในการจัดส่งถ่านหินได้ตามคำสั่งซื้อจากลูกค้า
"บริษัทมีโอกาสอีกมากในการจัดจำหน่ายถ่านหินให้กับคู่ค้าทางธุรกิจ จึงทำให้เชื่อว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ผลประกอบการจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก จากการเพิ่มซัพพลายเออร์ในประเทศจีนและขายให้กับโรงไฟฟ้ารายใหม่หลายแห่งในประเทศจีน โดยบริษัท Guangdong Energy Earth Co.,ltd ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ (Earth ถือหุ้น 100%) ดำเนินกิจการในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคตได้อีกมหาศาล โดยการขยายตลาดในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ภายในประเทศ”นายขจรพงศ์กล่าวในที่สุด
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้าปริมาณการจัดจำหน่ายถ่านหินปีนี้ไว้ที่ 10 ล้านตัน หลังจากที่มีคำสั่งซื้อจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะสามารถรักษา Gross Margin ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงปีก่อนที่ประมาณ 15-20% ได้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทซื้อขายถ่านหินกับต่างประเทศประมาณ 70% โดยฐานลูกค้ารายใหญ่ยังคงอยู่ที่ประเทศจีน อินเดีย เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ อีก 30% ขายในประเทศไทย