กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--พีอาร์ดีดี
นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่าถึงแม้ภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยในช่วงครึ่งปีแรกจะค่อนข้างทรงตัว แต่ประเทศไทยก็ยังได้รับอานิสงค์จากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาครัฐ และภาคการท่องเที่ยวที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอยจากภาคการส่งออกที่ลดลงอย่างมาก ทำให้ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานภายใต้การบริหารของบลจ.ไทยพาณิชย์ งวดผลการดำเนินระหว่างวันที่ 1 เม.ย. – 30 มิ.ย. 2558 สามารถจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยได้พร้อมกัน 8 กองทุน รวมทั้งสิ้นประมาณ 2,411 ล้านบาท
โดยบริษัทฯ จะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 21 สิงหาคม 2558 จำนวน 6 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทรูโกรท (TRUEIF) มีการซื้อสินทรัพย์เพิ่มขึ้นในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ทำให้จ่ายปันผลสูงขึ้น ในอัตรา 0.2365 บาทต่อหน่วย ซึ่งที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลไปแล้วเป็นจำนวน 1.1734 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557)
กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ประเภทศูนย์การค้า จำนวน 1 กองทุนคือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) ซึ่งลงทุนในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซารัชดา-พระราม 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 โครงการเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า และโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต โดยจะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2500 บาทต่อหน่วย โดยที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลแล้วเป็นจำนวน 9.687 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 6 มี.ค. 2549) เนื่องจากปัจจุบันศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า อยู่ในระหว่างการซ่อมบำรุงจึงทำให้กระแสรายได้ลดลง คาดว่าจะเปิดบริการได้ภายในเดือน ธ.ค. ของปีนี้ ซึ่งจะทำให้มีกระแสรายได้เข้ามาเหมือนเดิม
กองทุนอสังหาฯ ประเภทอาคารสำนักงาน จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN คอมเมอร์เชียล โกรท (CPNCG) ที่ลงทุนในอาคารสำนักงาน ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิล์ด โดยจะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2060 บาทต่อหน่วย ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าเมื่่อเทียบกับปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกัน และที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลไปแล้ว ในอัตรา 2.0070 บาทต่อหน่วยลงทุน (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 14 ก.พ. 2556) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ ไพร์มออฟฟิศ (SIRIP) ซึ่งลงทุนกรรมสิทธ์ในโครงการอาคารสิริภิญโญ จะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1636 บาทต่อหน่วย โดยที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลไปแล้ว ในอัตรา 0.6000 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 28 ส.ค. 2557)
กองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงงานและคลังสินค้า มีจำนวน 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF) จ่ายปันผลในอัตรา 0.2000 บาทต่อหน่วย ซึ่งที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้น ในอัตรา 0.6311 บาทต่อหน่วยลงทุน (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 24 พ.ย. 2557) และกองทุนอสังหาฯ ประเภทคอมมิวนิตี้มอลล์ จำนวน 1 กองทุน คือกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์คริสตัล รีเทล โกรท (CRYSTAL) ที่ลงทุนในโครงการเดอะ คริสตัล (The Crystal) และ โครงการคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.1950 บาทต่อหน่วย โดยที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลไปแล้วในอัตรา 1.3321 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 15 พ.ย. 2556)
นอกจากนี้ยังกำหนดจะจ่ายปันผลในวันที่ 24 สิงหาคม 2558 นี้ อีก 2 กองทุนคือกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพรม์ออฟฟิศ (POPF) ที่ลงทุนในอาคารสมัชชาวานิช 2 อาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ และอาคารบางนา ทาวเวอร์จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2620 บาทต่อหน่วย โดยที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลไปแล้ว ในอัตรา 4.0455 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 7 ก.ย. 2554 ) และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน อินดัสเทรียล โกรท (TGROWTH) จ่ายปันผลในอัตรา 0.2202 บาทต่อหน่วย ซึ่งที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลในอัตรา 1.1928 บาทต่อหน่วยลงทุน (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 22 พ.ค. 2557)