กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 อุบลราชธานี
วันนี้(27 กรกฎาคม 2558) ที่ลานกีฬาตำบลบ้านกอก อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.อุบลราชธานี ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี เทศบาลตำบลบ้านกอก และภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพในพื้นที่ จัดกิจกรรมรณรงค์คัดแยกและรีไซเคิลขยะในพื้นที่เสี่ยงสูง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพของประชาชน ซึ่งจะเน้นการดูแลสุขภาพคนงานเก็บ คุ้ยเขี่ย ขายหรือรีไซเคิลขยะ เพราะคนทำงานกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพ เทียบเท่ากับกลุ่มอื่นๆ ที่สำคัญต้องทำงานหนัก และมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดการเจ็บป่วยจากการทำงานได้ง่าย โดยมีนายสุคนธ์ สุวรรณศักดิ์สิน นายอำเภอเขื่องในเป็นประธานในพิธี
ด้านนางกาญจนาพันธุ์ สมหอม รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่าคนที่ทำงานคัดแยกและรีไซเคิลขยะ มีปัจจัยเสี่ยง ในการเกิดโรคหรือผลกระทบต่อสุขภาพในทุกๆด้าน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม อันเป็นผลมาจาก ขยะมูลฝอย ที่เป็นแหล่งสะสมของสารเคมีอันตราย เชื้อโรค หรือแม้แต่ของมีคมต่างๆ จากข้อมูลที่ผ่านมาพบว่า หลายพื้นที่ได้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้บ่อขยะ โดยพบว่าประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบต่อสุขภาพจากปัญหาไฟไหม้บ่อ ขยะ คือ ผู้สูงอายุ เด็ก สตรีมีครรภ์ และผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยทางด้านระบบทางเดินหายใจ ซึ่งประชาชนและชุมชนใกล้เคียงเหล่านี้ มักมีปัญหาสุขภาพจากขยะติดเชื้อและสารเคมีตกค้างในร่างกาย เช่น สารตะกั่ว สารหนู ปรอท และสารโลหะหนักอื่นๆ และเมื่อเกิดการเจ็บป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลที่เหมาะสม
นางกาญจนาพันธุ์ กล่าวต่อว่า เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการทางสุขภาพด้านอาชีวอนามัยและบริการสาธารณสุขที่จำเป็น สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.อุบลราชธานี จึงจัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันโรคและภัยสุขภาพจากการคัดแยกและรีไซเคิลขยะในพื้นที่เสี่ยงสูง เพื่อให้ประชาชนและชุมชนที่อาศัยในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงมีความรู้ในการป้องกันอันตรายที่เกิดจากการทำงานคุ้ยเขี่ยขยะ และมีส่วนร่วมในการรณรงค์ป้องกันตนเองได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ปลอดโรค ปลอดภัย ภายใต้คำขวัญการรณรงค์ “เก็บขยะ เก็บชีวิต อย่าคิดเสี่ยง โรคจากการทำงานป้องกันได้”โดยได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการอาชีพคัดแยกและรีไซเคิลขยะกว่า 100 คน หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422