กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--IR PLUS
บมจ. คอมเซเว่น หรือ COM7 เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 300 ล้านหุ้น หรือ 25% เคาะราคาขายหุ้น IPO ที่ 3.35 บาท/หุ้น มีส่วนลดให้ประมาณร้อยละ 39 เอาใจนักลงทุน ขณะที่ เอเซีย พลัส ในฐานะที่ปรึกษาฯ และ ลีด อันเดอร์ไรท์ เตรียมจูงมือ 4 อันเดอร์ไรท์ บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บล. ทรีนีตี้ จำกัด, บล. บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และ บล. ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดจองซื้อ ระหว่างวันที่ 31 ก.ค. และ 3 – 4 ส.ค. 2558 เชื่อเสียงตอบรับคับคั่ง เหตุธุรกิจมีผลประกอบการเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง
ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกัน การจำหน่ายหุ้นของ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยว่า มั่นใจหุ้น IPO ของ COM7 จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างดี โดยบริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
โดยเสนอขายแก่บุคคลทั่วไปประมาณ 56 % จัดสรรให้นักลงทุนสถาบันประมาณ 21 % และผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ ประมาณ 23 % กำหนดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม และ 3 – 4 สิงหาคม 2558 โดยมีผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายเข้าร่วมอีก 4 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 10 สิงหาคม 2558 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "COM7"
"การกำหนดราคาไอพีโอของ COM7 ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีความน่าสนใจอย่างมาก และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยกำหนดราคา IPO อยู่ที่ 3.35 บาท คิดเป็น P/E ที่ประมาณ 17.82 เท่า จากกำไรสุทธิของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง หรือ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 ถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2558 ที่ประมาณ 0.19 บาทต่อหุ้น ซึ่งมีส่วนลดประมาณ 39 % จาก P/E ของกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดพาณิชย์ของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีส่วนลดประมาณ 26% จาก P/E เฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนที่มีการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกับการประกอบธุรกิจของบริษัท อย่างไรก็ตาม เรามั่นใจว่า ด้วยศักยภาพของบริษัทฯ ในฐานะผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทย ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศ และมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด การเข้าจดทะเบียนในตลาดในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก จึงทำให้เชื่อมั่นว่า COM7 จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน และจะสร้างผลตอบแทนที่ น่าพอใจให้กับนักลงทุน" ดร.ก้องเกียรติกล่าว
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทยในนาม BaNANA IT, BaNANA Mobile , iStudio, iBeat, uStore By Comseven เปิดเผยว่า เม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ราว 1,005 ล้านบาท จะนำไปใช้เป็นเงินทุนใน การขยายธุรกิจจำนวน 300 ล้านบาท ใช้ชำระคืนเงินกู้จำนวน 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจประมาณ 205 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต และเชื่อมั่นว่า การระดมทุนในครั้งนี้ จะยิ่งเพิ่มศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ ให้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายขยายสาขาใหม่เพิ่มเติมอีก 38 สาขา ในปี 2558 จากปัจจุบันมีสาขารวมกันทั้งสิ้น 317 สาขา ทำให้ถึงสิ้นปี 2558 คาดว่าบริษัทฯ จะมีจำนวนสาขาร้านค้าปลีกและศูนย์บริการทั้งสิ้น 355 สาขารวมทั้ง มีแผนที่จะขยายช่องทางการสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบ E-Commerce ซึ่งบริษัทฯ อยู่ระหว่างการพัฒนาการให้บริการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.mangoshopping.com และสำหรับร้านค้าปลีกที่บริหารงานโดยบริษัทย่อยของบริษัทฯ ซึ่งได้แก่ ร้าน Mango Mobile ในปี 2558 บริษัทฯ ก็มีแผนที่จะขยายสาขาร้าน Mango Mobile เพิ่มเติมทั้งหมด 20 สาขา
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจเข้าสู่กลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็ก (SME หรือ SMB) ซึ่งเป็นฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มีการขยายตัวที่ดีในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งโอกาสในการรุกตลาดไปยัง AEC เพิ่มเติมให้มากยิ่งขึ้น จากปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ร่วมกับพันธมิตรเพื่อเปิดร้าน Banana IT ในประเทศเมียนม่าร์แล้วจำนวน 2 สาขา เพื่อเป็นโครงการนำร่องในการรุกไปยังประเทศอื่น ๆ ที่มีศักยภาพเพิ่มเติม
"เรามีโครงการต่าง ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจไอทีของ COM7 ให้มีการเติบโตมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้านการจำหน่ายสินค้าไอทีของประเทศ จากช่องทางการขายและบริการที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในประเทศ และมีจำนวนสินค้าไอทีจำหน่ายหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่ง สำหรับสภาวะตลาดหุ้นในปัจจุบันเราไม่มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของ COM7 แข็งแกร่ง และธุรกิจยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต นอกจากนี้ เรายังมีนโยบายในการจ่ายปันผลเพื่อตอบแทนผู้ถือในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิอีกด้วย" นายสุระ กล่าว