TFT9: ธนไทยชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น

ข่าวทั่วไป Tuesday April 8, 1997 11:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--8 เม.ย.--บงล.ธนไทย
ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2540 เกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา และพฤติกรรมของกลุ่มผู้บริหารบริษัทฯ ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อ เท็จจริง อันอาจเป็นผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัทฯ อีกทั้งกระทบต่อการตัดสินใจ ของลูกค้าในการซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินของบริษัทฯ
เพื่อให้ข้อเท็จจริงเป็นที่กระจ่างชัดต่อผู้ลงทุนทั่วไป บริษัทฯ จึงขอชี้แจง ดังนี้
1. เหตุการณ์ในวันประชุม
1.1 เพื่อให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและยุติธรรม คณะ กรรมการของบริษัทฯ รวมทั้งตัวแทนซึ่งมาจากกระทรวงการคลัง จึงได้มีมติที่ประชุม คณะกรรมการที่ 3/2540 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2540 แต่งตั้งให้ บริษัท อินดิ เพนเด็นซ์ ลีกัล โพรเฟสชั่น จำกัด ("อินดิเพนเด็นซ์") เป็นผู้ดำเนินการประชุม ซึ่ง "อินดิเพนเด็นซ์" เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายระดับนานาชาติ และยัง เคยมีประสบการณ์ในการจัดการประชุมในลักษณะนี้มาก่อน
1.2 บัตรลงคะแนนทุกใบ จะมีหมายเลขบัตรลงคะแนนกำกับ ซึ่ง หมายเลขดังกล่าวจะตรงกับหมายเลขที่ปรากฏในสมุดลงทะเบียนเข้าประชุม ซึ่งผู้ถือ หุ้นทุกรายจะต้องเซ็นรับทราบก่อนเข้าประชุม ดังนั้นจึงสามารถตรวจสอบความถูก ต้องของบัตรลงคะแนนได้ทุกใบ
1.3 ในการนับคะแนนในวันประชุม ซี่งมีตัวแทนจากกลุ่มผู้ถือหุ้นทั้ง สองฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยานในการนับคะแนนนั้น ปรากฏว่าเมื่อรวมคะแนนเสียงทั้งหมด ได้ 46 ล้านหุ้น ในขณะที่ผู้เข้าประชุมทั้งหมดมีคะแนนเสียงรวม 44 ล้านหุ้น ซึ่งทาง "อินดิเพนเด็นซ์" ในฐานะผู้ดำเนินการประชุม ร่วมกับสักขีพยานในการนับคะแนนทั้ง สองฝ่าย ได้พยายามหาสาเหตุของความแตกต่างดังกล่าว โดยได้นำบัตรลงคะแนน รวมทั้งใบมอบฉันทะทุกใบมาตรวจสอบ แต่ยังไม่สามารถสรุปหาสาเหตุได้ ประกอบ กับเวลาได้ล่วงเลยมาจน 22.00 น. แล้ว ประธานในที่ประชุม จึงสั่งปิดการประชุม และขอให้มีการประชุมต่อในวันที่ 11 เมษายน 2540
2. การเสนอชื่อนายกำจร สถิรกุล เป็นประธานกรรมการบริษัทฯ
ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ โดยมีตัวแทนของกระทรวงการคลัง เข้าร่วมประชุมด้วย เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2540 มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นควรให้ เสนอ นายกำจร สถิรกุล เป็นประธานกรรมการบริษัทฯ แทนนายประทีป วัชรางกูร ซึ่งจะครบวาระ ต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เนื่องจากเห็นว่านายกำจร สถิรกุล เป็นผู้มี ความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับกันทั่วไป และยังเคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคาร แห่งประเทศไทย
อีกทั้ง กรรมการทุกท่านรวมถึงตัวแทนที่มาจากกระทรวงการคลังได้ แถลงข่าวสนับสนุน นายกำจร สถิรกุล เป็นกรรมการของบริษัทฯ ที่โรงแรมรีเจ้นท์ ในวันเดียวกัน การเปลี่ยนท่าทีของตัวแทนกระทรวงการคลังต่อนายกำจรฯ ใน การประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 27 มีนาคมฯ จึงเป็นเรื่องที่นอกเหนือความคาดหมายของ กรรมการบริษัทฯ ท่านอื่น ๆ
3. ความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯ กับนายเอกชัย อธิคมนันทะ
ในอดีตที่ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ เคยเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ทางธนาคารจึงได้ส่งนายเอกชัยฯ เข้ามาเป็นกรรมการของบริษัทฯ ธนาคารฯ ได้ ขายหุ้นของบริษัทฯ ออกไปแล้ว และนายเอกชัยฯ ได้ลาออกจากตำแหน่งในบริษัทฯ ทุกตำแหน่ง ทางบริษัทฯ จึงมิได้มีความสัมพันธ์ใด ๆ กับนายเอกชัยฯ ตั้งแต่บัดนั้น เป็นต้นมา
4. ข้อแนะนำของกรรมการที่มาจากกระทรวงการคลัง
ได้มีการกล่าวพาดพิงว่า ผู้บริหารของบริษัทฯ ไม่รับฟังคำแนะนำ ของตัวแทนที่มาจากกระทรวงการคลัง ทำให้บริษัทฯ เสียประโยชน์ในการทำสัญญากู้ เงินจากต่างประเทศนั้น บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า บริษัทฯ ได้พิจารณาเงื่อนไขต่าง ๆ ในสัญญาเงินกู้อย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงหลักปฏิบัติสากลของการกู้เงินดังกล่าว ภาวะตลาดการกู้เงินและฐานะของบริษัทฯ ในขณะนั้น อีกทั้งข้อแนะนำที่ตัวแทนจาก กระทรวงการคลังได้ให้ไว้แก่บริษัทฯ คือ ขอให้ผู้ให้กู้รับภาระในเรื่องภาษีหัก ณ ที่ จ่าย ซึ่งบริษัทฯ ไม่สามารถเจรจาตามคำแนะนำดังกล่าวได้ เนื่องจากหลักปฏิบัติที่ เป็นที่ยอมรับกันในตลาดเงินทั่วโลกก็คือ ผู้กู้จะต้องรับภาระภาษีหัก ณ ที่จ่าย ดังจะ เห็นได้จากสัญญาเงินกู้ต่างประเทศของธนาคารพาณิชย์ และของบริษัทเอกชนต่าง ๆ ของไทย ต่างระบุให้ผู้กู้เป็นผู้รับผิดชอบภาษีหัก ณ ที่จ่าย--จบ--

แท็ก เป็นข่าว  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ