กรุงไทย คาร์เร้นท์ฯ โชว์รายได้ไตรมาส 1 พุ่งกว่า 30% มั่นใจปี 48 ตลาดรถยนต์ให้เช่ายังโตต่อเนื่อง

ข่าวทั่วไป Wednesday June 1, 2005 11:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 มิ.ย.--โอเอซิส มีเดีย
กรุงไทย คาร์เร้นท์ โชว์ผลประกอบการไตรมาสแรก รายได้ และกำไรสุทธิโตกว่า 30% เนื่องจากตลาดรถยนต์ให้เช่าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คาดปี 2548 ตลาดโตเพิ่มอีก 18% พร้อมมั่นใจความแตกต่างด้านการให้บริการ และกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน ส่งผลบริษัทฯเติบโตอย่างมีศักยภาพ เผยปัจจุบัน ก.ล.ต. อนุมัติให้ทำ IPO ได้ พร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เดือนมิ.ย.นี้ในชื่อ KCAR
นายพิเทพ จันทรเสรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงไทย คาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทประจำไตรมาสที่ 1 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2548 ปรากฏว่ามีรายได้รวม 171 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2547 ที่มียอดรายได้รวม 124 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 37.9% ขณะที่มีกำไรสุทธิรวม 47 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2547 ที่มีกำไรสุทธิรวม 36 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 30.56% และมีสินทรัพย์รวมสุทธิ 1,547 ล้านบาท เทียบกับ ณ สิ้นปี 2547 ที่มีสินทรัพย์รวม 1,438 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 7.58% โดยมีหนี้สินรวม 1,146 ล้านบาท เทียบกับ ณ สิ้นปี 2547 ที่มีหนี้สินรวม 1,084 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 5.72% และมีส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 401 ล้านบาท เทียบกับ ณ สิ้นปี 2547 ที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.28%
การที่ผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 มีการปรับตัวที่ดีขึ้นเป็นผลมาจาก การขยายตัวของตลาดรถยนต์ให้เช่า ซึ่งคาดว่าจะมีการขยายตัวประมาณ 18% ในปี 2548 โดยในปัจจุบันบริษัทฯ มีรถยนต์ให้เช่ารวม 2,800 คัน และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 3,000 คัน ในปี 2549 ส่วนเรื่องปัจจัยน้ำมันที่มีการปรับตัวสูงขึ้น คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน เนื่องจากบริษัทฯ เป็นผู้จัดหารถยนต์ให้เช่า และไม่ได้รับผิดชอบในด้านของค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ขณะเดียวกัน ผู้เช่าซึ่งเป็นภาคเอกชน ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามภาวะของเศรษฐกิจโดยรวมส่งผลให้รายได้โดยรวมเติบโตขึ้น
“การแข่งขันในตลาดรถยนต์ให้เช่าปัจจุบันค่อนข้างสูงโดยเฉพาะการแข่งขันในด้านราคา ซึ่งในส่วนของเราจะไม่ได้เน้นตรงจุดนั้น แต่จะเน้นการให้บริการแบบครบวงจร และเน้นกลุ่มลูกค้าองค์กรที่ต้องการเช่ารถยนต์ให้เช่าเพื่อการดำเนินงาน (Operating Lease) และต้องการสินค้าและบริการที่สูงกว่ามาตรฐานโดยทั่วไป ทำให้ตัวเลขผลการดำเนินงานของเราเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยองค์กรที่ต้องการเช่ารถยนต์ให้เช่าเพื่อการดำเนิน (Operating Lease) และต้องการสินค้าและบริการที่สูงกว่ามาตรฐานโดยทั่วไป ทำให้ตัวเลขผลการดำเนินงานของเราเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยในปัจจุบันเรามีลูกค้าที่เป็นองค์กรในภาคเอกชนสูงถึง 85% อาทิ ธนาคารทหารไทย บริษัทฟิลลิป มอร์ริส บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) ส่วนอีก 15% จะเป็นกลุ่มราชการ และรัฐวิสาหกิจ” นายพิเทพ กล่าว
นายพิเทพ กล่าวต่อไปว่า ตลาดของบริษัทฯ มีความชัดเจนโดยเฉพาะการให้เช่ารถยนต์เพื่อการดำเนินงานในระยะ 1-3 ปี ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้ที่มั่นคง และเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ต่างจากกลุ่มสถาบันการเงินที่เน้นการให้บริการแบบเช่าซื้อ (Hire Purchase) ที่เน้นกลุ่มลูกค้ารายย่อยเป็นหลัก โดยในปัจจุบันบริษัทฯสามารถให้บริการกับลูกค้าได้ทั่วประเทศ ด้วยเครือข่าย และศูนย์บริการกว่า 400 แห่ง และในอนาคตยังมีแผนงานที่จะขยายการให้บริการที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้เพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับ บริษัท กรุงไทย คาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันได้รับอนุมัติจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้สามารถกระจายหุ้นให้กับนักลงทุน (IPO) ได้เรียบร้อยแล้ว โดยมีแผนงานที่จะเข้าเป็นบริษัทหลักทรัพย์จดทะเบียนในหมวดสถาบันการเงิน ในช่วงเดือนมิถุนายน 2548 ในชื่อ KCAR มีบริษัทหลักทรัพย์ ซีมีโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงิน
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
คุณศรัญญรัตน์ สุวรรณคาม / คุณปิยะพร จำเนียร
บริษัท โอเอซิส มีเดีย จำกัด
โทร.0-2937-4658-9, 0-2937-4735
โทรสาร. 0-2937-4596
อีเมลล์ ; saranyarat@oasismedia.co.th,
piyaporn@oasismedia.co.th--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ