กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--IR network
บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ประกาศมีความพร้อมเต็มที่เพื่อรับงานใหม่ๆ เพิ่ม หลังพบมีโครงการอีกเพียบที่จะเกิดขึ้น ย้ำชัดพร้อมดำเนินตามนโยบายเพื่อก้าวเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทน ดันเป้าหมายให้ได้ 500 เมกะวัตต์ภายในปี 2560 ล่าสุดจับมือกับ SUNTECH พัฒนาแผงโซลาร์จนได้ มอก.ภายใต้แบรนด์ GUNKUL หนุนงานหลั่งไหลเข้ามาอีกมาก "สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย" ประเมินครึ่งปีหลังภาพรวมธุรกิจยังโดดเด่น ส่วนผลงานไตรมาส2/2558 คาดรายได้จากการขายเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 และมั่นใจวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 19 สิงหาคมนี้ ผู้ถือหุ้นพร้อมใจโหวตรับทุกวาระ
นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)(GUNKUL) เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจของบริษัทฯ ในครึ่งปีหลังเชื่อว่า จะเติบโตอย่างโดดเด่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยพลังงานทดแทนยังเป็นธุรกิจหลักที่ผลักดันให้ผลการดำเนินงานเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2558 คาดว่ารายได้จากการขายดีกว่าคาดการณ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ซึ่งในอนาคตบริษัทฯ ยังมีโอกาสอีกมากที่จะได้รับใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะงานโซลาร์ฟาร์มในประเทศ เนื่องจากบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการเจรจางานขายอุปกรณ์ในโครงการโซลาร์ฟาร์มล้างท่อ รวมถึงการเจรจาเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมประมาณ 20-60 เมกะวัตต์ คาดว่าจะรู้ผลภายในไตรมาส 3 ปี 2558
นอกจากนี้ยังมีโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตร กำลังการผลิต 800 เมกะวัตต์ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทย่อยของ GUNKUL ได้เซ็นสัญญาบันทึกข้อความเข้าใจ (MOU) กับกองทัพบก เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการดังกล่าวไปแล้วกำลังการผลิตรวม 8 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะได้รับงานจากหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตร เพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 40 เมกะวัตต์ โดยบริษัทฯ เชื่อว่าในอนาคตจะได้รับงานโครงการพลังงานแสงอาทิตย์จากกองทัพเรือและกองทัพอากาศเพิ่มเติมอีกด้วย
"บริษัทฯ มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ในการขยายธุรกิจให้มีความแข็งแกร่ง ซึ่งล่าสุดได้ร่วมกับผู้ผลิตแผงโซลาร์รายใหญ่ของโลก SUNTECH พัฒนาแผงโซลาร์จนสามารถจดทะเบียน มอก.ภายใต้แบรนด์ GUNKUL อันจะส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับโอกาสในการผลิตและจำหน่ายแผงโซลาร์ที่ผลิตได้เองภายในประเทศ ซึ่งถือเป็นไปตามนโยบายส่งเสริมผู้ผลิตแผงโซลาร์ในประเทศโดยภาครัฐ อย่างไรก็ตามเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน บริษัทฯ จะดำเนินการตามนโยบายเพื่อก้าวเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทนตามเป้าหมายกำลังการผลิต 500 เมกะวัตต์ให้ได้ภายในปี 2560 นี้"นายสมบูรณ์กล่าว
เขากล่าวต่อถึง การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2558 ที่จะมีขึ้นในวันพุธที่ 19 สิงหาคม 2558 นี้ เชื่อว่าผู้ถือหุ้นจะอนุมัติรับมติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 183,320,745 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) ในอัตราส่วน 6 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขาย 22 บาทต่อหุ้น เพื่อรองรับการออกวอแรนต์ที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ อายุการใช้สิทธิ 2 ปี ราคาใช้สิทธิเท่ากับ 27 บาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับแจ้งเป็นหนังสือแสดงเจตจำนงจากบริษัท กันกุล กรุ๊พ จำกัด ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ประสงค์ใช้สิทธิและแสดงความจำนงใช้สิทธิการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ เกินกว่าสิทธิที่สามารถจองซื้อ เพื่อรองรับกรณีมีผู้ประสงค์ไม่ขอใช้สิทธิ สำหรับการเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนจำนวนประมาณ 4,000 ล้านบาท เป็นเงินทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์รวม 300 MW นอกจากนี้ ยังทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทฯ ลดลง ทำให้ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของธุรกิจในอนาคต
พร้อมกันนี้ยังเชื่อว่าผู้ถือหุ้นจะพร้อมใจอนุมัติการซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท อินฟินิท อัลเทอร์เนทีฟ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (IAE) ซึ่งถือหุ้นอยู่ใน บริษัท รางเงิน โซลูชั่น จำกัด (RNS) เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 11 โครงการ กำลังการผลิตรวม 87 เมกะวัตต์ รวมถึงอนุมัติการเข้าทำรายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ GK Kimitsu จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิตขนาด 33.66 เมกะวัตต์ และพิจารณาการให้สัตยาบันในการเข้าทำรายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ของ บริษัท Sendai Okura Mega Solar Godo Kaisha (GK Sendai) ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 31.75 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดมิยากิ ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงพิจารณาการให้สัตยาบันต่อการเข้าทำรายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ของ บริษัท กรีโนเวชั่น เพาเวอร์ จำกัด (GNP) (บริษัทย่อย GUNKUL) จำนวน 1 สัญญา กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์