กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--IR PLUS
ASEFA กระแสแรง!!! ขายไอพีโอหมดเกลี้ยงทั้งจำนวน 150 ล้านหุ้น ที่ราคาไอพีโอหุ้นละ 3.70 บาท "สมภพ กีระสุนทรพงษ์" กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำการจัดจำหน่าย มั่นใจเป็นหุ้นพื้นฐานดี - อนาคตสดใส ด้าน "ไพบูลย์ อังคณากรกุล" แม่ทัพใหญ่ ASEFA เผย นำเงินที่ระดมทุนได้ไปเพิ่มศักยภาพธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยบริษัทฯมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ มั่นใจหลังเข้าทำการซื้อขายในกระดาน 5 สิงหาฯนี้ ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำการจัดจำหน่ายหุ้น IPO บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA กล่าวว่า หลังจากที่ได้เปิดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชน ทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 150 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายที่ 3.70 บาท/หุ้น ระหว่างวันที่ 28-29 และวันที่ 31 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา ปรากฎว่าหุ้นของ ASEFA ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจองซื้อหุ้นไอพีโอเข้ามาเป็นจำนวนมาก ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดี
"ASEFA หุ้นไอพีโอน้องใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง จากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของผู้บริหาร ประกอบกับการเข้ามาระดมทุนในตลาดฯ จะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ ASEFA มากยิ่งขึ้น เชื่อว่าปัจจัยดังกล่าว ทำให้หุ้นไอพีโอของ ASEFA ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการเปิดให้จองซื้อหุ้นในครั้งนี้ นอกจากนี้ราคาขายหุ้นไอพีโอที่ 3.70 บาท/หุ้นถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม และคุ้มค่าสำหรับการถือลงทุนในระยะยาว" นายสมภพ กล่าว
นายไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA ผู้นำในการผลิตจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และบริการหลังการขายด้านไฟฟ้าครบวงจร กล่าวว่า หุ้นไอพีโอของบริษัทฯ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจองซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ บริษัทฯ เนื่องจาก ASEFA เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตสูง บริษัทคาดว่าผลประกอบการของบริษัทฯ จะขยายตัวอย่างรวดเร็วในอนาคต ตามอุตสาหกรรมที่จำเป็น ต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะธุรกิจการให้บริการศูนย์ข้อมูล โรงไฟฟ้าต่างๆ ที่จะต้องเพิ่มขึ้นตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าของประเทศ รวมทั้งการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนตามโครงการลง ทุนพัฒนาด้านคมนาคมขนส่ง
"ในฐานะผู้บริหารบริษัทฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นไอพีโอเข้ามา เป็นจำนวนมาก สะท้อนว่านักลงทุนมีความเข้าใจธุรกิจและเชื่อมั่นในการเติบโตของบริษัทฯ การเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ ASEFA สามารถเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตามแผนที่วางไว้ ในฐานะผู้บริหารผมจะเดินหน้าสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่ต่ำ กว่า 50% ของกำไรสุทธิ จึงมั่นใจ นักลงทุนที่พลาดวันจองซื้อหุ้นไอพีโอในช่วง 3 วันที่ผ่านมา จะเข้ามาซื้อหุ้นบนกระดานในวันเทรดวันแรกวันพุธที่ 5 สิงหาคมนี้ เพิ่มเติมอีก" นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้ในการขยายโรงงานโดยบริษัทฯมีแผนขยายกำลังการผลิตชิ้นส่วนโลหะเพิ่ม เป็น 8,400 ตันต่อปี จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิ 4,800 ตันต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2559 เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดในอนาคต รวมทั้งมีแผนจัดตั้งสาขาจำนวน 10 สาขา ในหัวเมืองต่างจังหวัด เพื่อรองรับโอกาสการเติบโตในแต่ละภูมิภาค รวมทั้งการเปิด AEC ซึ่งการขยายสาขาไปยังภูมิภาคทำให้รวดเร็วในการขนส่งสินค้า และลดต้นทุนการขนส่งอีกด้วย โดยจะเริ่มตั้งสำนักงานสาขาตั้งแต่กลางปี 2558 และครอบคลุมทุกภาคในปี 2559 และส่วนที่เหลือจะไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ