กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--ทริปเปิล เจ คอมมิวนิเคชั่น
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า จากมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2558 ได้เห็นชอบให้ลดอัตราสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงตามกฎหมายให้เหลือจำนวนวันสำรองประมาณ 25 วัน จากเดิม 43 วัน โดยแบ่งเป็นอัตราการสำรองน้ำมันสำเร็จรูปเป็น 1% จากเดิม 6% ขณะที่อัตราสำรองน้ำมันดิบยังคงเดิมที่ 6% ซึ่งจะส่งผลดีต่อประชาชนเนื่องจากจะช่วยให้ต้นทุนในการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงของประเทศลดลง พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงพลังงานไปดำเนินการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่เหมาะสม
กรมธุรกิจพลังงาน ในฐานะหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย ได้ออกประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เป็น 2 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1 เป็นการปรับลดอัตราสำรองน้ำมันสำเร็จรูปแบบขั้นบันได ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2558 โดยปรับลดจากเดิม 6% เป็น 5% วันที่ 1 กันยายน 2558 ปรับลดจาก 5% เป็น 4% และวันที่ 1 ตุลาคม 2558 ปรับลดจาก 4% เป็น 2% และฉบับที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไป ปรับลดอัตราสำรองน้ำมันสำเร็จรูปเหลือ 1% ซึ่งการปรับอัตราสำรองน้ำมันเป็นแบบขั้นบันไดดังกล่าว เพื่อให้ โรงกลั่นและผู้ค้าน้ำมันมีระยะเวลาในการปรับตัวและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดภายใต้แนวคิด "ของดี...พร้อมใช้" คือ น้ำมันสำรองที่พร้อมใช้งานได้ทันทีโดยไม่นับน้ำมันที่อยู่ก้นถัง (Dead Stock) และน้ำมันที่อยู่ระหว่าง การขนส่ง (ในท่อขนส่ง) เพื่อให้สามารถนำน้ำมันสำรองดังกล่าวออกมาใช้ได้ทันทีหากเกิดภาวะฉุกเฉิน ซึ่งประกาศ การปรับลดอัตราสำรองดังกล่าวได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2558 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2558 เป็นต้นไป
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าการปรับลดอัตราการสำรองน้ำมันลงจะกระทบกับความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศนั้น นายวิฑูรย์ยังยืนยันว่า การปรับลดการสำรองน้ำมันครั้งนี้ไม่ได้ทำให้ประเทศขาดความมั่นคงแต่อย่างใด ทั้งนี้เป็นการปรับตามสถานการณ์น้ำมันในตลาดโลก ในขณะที่มีอุปทานล้นตลาดและราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ เมื่อมีการปรับลดอัตราสำรองน้ำมันสำเร็จรูปลงจะทำให้ผู้ค้าน้ำมันที่มีหน้าที่ต้องสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงทุกรายมีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภคในระยะยาว