กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--เวิรฟ
ซัมซุงเตรียมพัฒนาเทคโนโลยีบันทึกภาพขั้นสูงสำหรับการถ่ายทำ ตัดต่อ และแบ่งปันวีดีโอบนสมาร์ทโฟนแฟลกชิพรุ่นต่อไป เพื่อตอบรับยุคแห่งการสื่อสารด้วยภาพเคลื่อนไหว
นายคิม ฮยอง ซุก รองประธานและหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาบริการสื่อ ธุรกิจโทรคมนาคมและ ไอทีของซัมซุง เผยว่า “นับตั้งแต่การเกิดขึ้นของสมาร์ทโฟน การสื่อสารของมนุษย์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างที่ไม่เคย เกิดขึ้นมาก่อน นอกเหนือจากการคุยกันด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์ ก็สามารถติดต่อกันด้วยการพิมพ์ข้อความผ่านแชท และสอดแทรกอารมณ์และความรู้สึกผ่านอีโมจิหรืออีโมติคอน (Emoji /Emoticon) จนกระทั่งมาถึงในยุคที่ “ภาพถ่าย และวีดีโอ” เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสื่อสารและวิถีชีวิตของมนุษย์ในโลกโซเชียลมีเดียอย่างมาก ซึ่งจะเห็นได้จาก ผลการศึกษาของเฟซบุ๊คในเดือนมกราคมที่ผ่านมา พบว่าสัดส่วนการโพสต์วิดีโอในเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้น 75% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่จำนวนของวีดีโอบน New Feedsของผู้ใช้เฟซบุ๊กเพิ่มขึ้นถึง 360% รวมถึงเว็บไซต์ยูทูบที่ตอนนี้มีผู้ใช้มากกว่า 1 พันล้านคนและมีวีดีโอที่ถูกอัพโหลดรวมความยาวถึง 300 ชั่วโมงในทุกๆ 1 นาที อีกทั้งยังมีแอพพลิเคชันสำหรับแชร์วีดีโอสั้นๆ อย่าง Vine ที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นี่คือปรากฏการณ์ของไลฟ์สไตล์ใหม่แห่งยุค ที่ทุกคนคือนักข่าวพลเมือง (Citizen Journalist) สามารถสร้างเนื้อหาจากเหตุการณ์ที่พบได้ด้วยตัวเองและแชร์ให้เพื่อนได้รับรู้ โดยทั่วกัน ตลอดจนคนดังและบริษัทต่างๆ ที่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับบรรดาผู้ติดตามผ่านการสร้างสรรค์วีดีโอเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
เพื่อตอบรับปรากฏการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นนี้ ซัมซุงจึงมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงในการถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ส่งสมาร์ทโฟนตระกูลกาแลคซี่ เอส เข้าสู่ตลาดครั้งแรกของโลกที่มาพร้อมความสามารถในการบันทึกวีดีโอแบบ HD และพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนสามารถบันทึกวีดีโอได้ในระดับ 4K UHD ในกาแลคซี่ โน้ต 3 และไม่ใช่แค่คุณภาพในการบันทึกภาพเท่านั้น ซัมซุงยังพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Auto Real-time HDR, Low-light Video, Optical Image Stabilizer และ Fast and Slow Motion ที่บรรจุอยู่ในกาแลคซี่ เอส 6 และ เอส 6 เอดจ์ เพื่อสร้างประสบการณ์การบันทึกภาพที่เหนือระดับยิ่งกว่าเคย
โดยมีข่าวแว่วมาว่าซัมซุงเตรียมพัฒนาความสามารถการบันทึกภาพและวีดิโอลงบนสมาร์ทโฟนแฟลกชิพรุ่นต่อไป ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่การบันทึกเท่านั้น แต่ยังสามารถตัดต่อและปรับแต่งวีดีโอแบบพร้อมแชร์ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่าน แอพพลิเคชันใดๆ ให้ยุ่งยาก เพื่อเขียนประวัติศาสตร์แห่งยุคการสื่อสารด้วยภาพให้มีสีสันและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น