กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--IR PLUS
“ไพบูลย์ อังคณากรกุล” ปลื้มนักลงทุนให้ความสนใจเข้าลงทุนจำนวนมาก คาดเป็นผลจากศักยภาพธุรกิจแกร่ง มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจด้วยเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนอย่างคุ้มค่าและยึด หลักบรรษัทภิบาล ด้าน “สมภพ กีระสุนทรพงษ์” กรรมการผู้อำนวยการ บล. ฟินันเซีย ไซรัส เผยนักลงทุนยังให้ความสนใจลงทุนในหุ้นไอพีโอที่เข้าซื้อขายภายในตลาดหลัก ทรัพย์ฯ ซึ่ง ASEFAได้แรงสนับสนุนเช่นเดียวกัน วอลุ่มเทรดกว่า 4,000 ล้านบาท
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับ ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของ บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA เปิดเผยว่า รู้สึกพอใจเป็นอย่างยิ่งกับผลตอบรับการซื้อขายหุ้นเป็นวันแรกของ ASEFA ในวันนี้ โดยราคาหุ้นปิดการซื้อขายที่ 5.95 บาท ให้ผลตอบแทนนักลงทุนสูงถึง 60.81% จากราคาไอพีโอที่ 3.70 บาทต่อหุ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการกำหนดราคาไอพีโอที่เหมาะสม ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รวมถึงศักยภาพในการเติบโตในอนาคต และเชื่อว่า ASEFA จะยังได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA เปิดเผยถึง ราคาหุ้นในการซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักกทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร ในวันนี้ว่า ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างน่าประทับใจ บริษัทฯ พร้อมที่จะพัฒนาศักยภาพและการเติบโตต่อไปในอนาคต ไม่ทำให้นักลงทุนและผู้ถือหุ้นผิดหวัง
โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้อย่างคุ้มค่าและยึดหลักธรรมา ภิบาล โดยจะนำไปขยายโรงงานและสาขา , ใช้ชำระคืนเงินกู้ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ลดลง และที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ
“ราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ให้ผลตอบแทนนักลงทุนสูงถึง 60.81% ในวันนี้ สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนมั่นใจในธุรกิจของ ASEFA เราจึงต้องขยายโรงงาน และจัดตั้งสาขาในหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัด เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ ยังเล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ซึ่งเราอยู่ระหว่างการศึกษาอย่างรอบคอบ” นายไพบูลย์ กล่าว
ทั้งนี้ การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ของบริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) เป็นวันแรก เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2558 เปิดการซื้อขายที่ระดับราคา 7.50 บาท ก่อนปรับขึ้นไปสูงสุดของวันที่ 7.65 บาท และปิดที่ระดับราคา 5.95 บาท มูลค่าการซื้อขายประมาณ 4,000 ล้านบาท