กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--IR Network
บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) โชว์ผลงานไตรมาส 2/58 กำไรสุทธิ 8.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.97% จากไตรมาส 1/58 มีกำไรสุทธิ 4.7 ล้านบาท ขณะที่รายได้พุ่ง 17.97% มาอยู่ที่ 210 ล้านบาท จากไตรมาส 1/58มีรายได้รวม 178 ล้านบาท ด้านผู้บริหารหนุ่มไฟแรง "ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา" แย้มผลประกอบการครึ่งปีหลังสดใส!!! ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ลุยส่งออเดอร์ลูกค้าใหม่ในอินเดีย สัญญา 3 ปี มูลค่า 500 ล้านบาท พร้อมมั่นใจรายได้ปีนี้เติบโต 10% ตามเป้า
นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (NDR) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2/58 มีรายได้รวม 210 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.97% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/58 ที่มีรายได้รวม 178 ล้านบาท และรายได้เพิ่มขึ้น 0.45% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/57 ที่มีรายได้รวม 209 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการส่งออกในช่วงไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/58 ที่ชะลอตัวลง
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 2/58 บริษัทมีกำไรสุทธิ 8.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.97% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส1/58 มีกำไรสุทธิ 4.7 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น และถือว่าผ่านจุดต่ำสุดที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 1/58 ตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้แล้ว และมั่นใจว่าในช่วงครึ่งปีหลังรายได้และกำไรจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต
"ตลาดในมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดหลักในการส่งออกมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องการจัดเก็บภาษี ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่1 เมษายน 2558 ทำให้ลูกค้ามีการสั่งซื้อสินค้า และมีการขอให้เก็บสินค้าไว้ที่คลังเราก่อน และให้ส่งสินค้าดังกล่าวหลังวันที่ 1 เมษายน 2558 ซึ่งเป็นผลบวกในไตรมาส 2 นี้ ขณะที่ตลาดในประเทศก็มีการขยายตัวต่อเนื่อง จากการทำโปรโมชั่นต่างๆ ทำให้รายได้ของเราเติบโตต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อน แต่อย่างไรก็ตาม จริงๆ แล้วกำไรในไตรมาสนี้ควรจะอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านบาท แต่เนื่องจากเรามีบันทึกการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งยังไม่รับรู้ประมาณ 3.7 ล้านบาท จึงทำให้กำไรสุทธิเหลือเพียง 8.6ล้านบาท" นายชัยสิทธิ์ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้เติบโต 10% จากปีก่อน โดยแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังยังคงเดินหน้าบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าและกระจายความเสี่ยง โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 55-60% จากปีก่อนอยู่ที่ 50% และในช่วงไตรมาส 3/58 ได้เริ่มทยอยส่งมอบสินค้าให้บริษัท CEAT ประเทศอินเดียแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 15-20 ล้านบาท และจะรับรู้รายได้อย่างเต็มที่ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป โดยมีมูลค่างานรวมทั้งหมด 500 ล้านบาท สัญญา 3 ปี