กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--
ผศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและกรรมการตรวจสอบ ธนาคารประเทศไทย ได้กล่าวถึง การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินในวันพรุ่งนี้ ว่า ทางคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินควรนำเอาประเด็นภาวะเศรษฐกิจซบเซาและอัตราเงินเฟ้อติดลบต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่เจ็ดมาเป็นประเด็นหลักในการพิจารณา มากกว่าที่จะวิตกกังวลเรื่องเงินบาทอ่อนค่าหรือเกรงว่าจะมีการก่อหนี้เกินตัวหรือความร้อนแรงของภาวะฟองสบู่ เพราะเศรษฐกิจไทยไม่ได้มีปัญหาฟองสบู่ และ การอ่อนค่าของเงินบาทไม่ได้เป็นผลจากดอกเบี้ยแต่เป็นผลจากความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยและธุรกรรมเคลื่อนย้ายเงินทุนระยะสั้นเก็งกำไรมากกว่า (Short term Speculative Capital Flows) มากกว่า การที่ประเทศมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูงแต่เงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็วในช่วงสั้นๆเป็นการแสดงถึงธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศที่ไม่ปรกตินัก
ดร. อนุสรณ์ อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวอีกว่า แม้นว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25-0.50% จะไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภคและการลงทุนมากนัก แต่อย่างน้อยที่สุดช่วยบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจฝืดเคือง มาตรการการคลังและการเร่งรัดการเบิกจ่ายภาครัฐมีข้อจำกัด ภาคส่งออกหดตัวติดลบ การลดดอกเบี้ยนโยบายจะช่วยลดต้นทุนทางการเงินของภาครัฐ ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจลงมา บรรเทาปัญหาได้ระดับหนึ่ง