กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล
เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 70 ปี ELLE (แอล) แบรนด์เนมชั้นนำจากประเทศฝรั่งเศส บุญเกียรติ โชควัฒนาประธานกรรมการบริหาร บริษัทไอ.ซี.ซี.อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ ศุภกรณ์ เวชชาชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โพสต์ อินเตอร์แนชั่นแนล มีเดีย จำกัด และ ปนุ สมบัติยานุชิต บรรณาธิการบริหาร นิตยสารแอล ประเทศไทย (ELLE Thailand) จัดงานนิทรรศการภายใต้ชื่อ “The Passcode to The Fashion Journey (เดอะ พาสโค้ด ทู เดอะ แฟชั่น เจอร์นี่)” หรือ รหัสผ่านเส้นทางสู่แฟชั่น พบกับเรื่องราวของ 30 กูรูผู้ทรงอิทธิพลทางด้านแฟชั่นของเมืองไทย ที่มาถ่ายทอดตำนานความรักและประสบการณ์ด้านแฟชั่นผ่านระบบดิจิตอล หรือ QR Code (คิวอาร์ โค้ด)โดยการใช้ประสาทสัมผัสทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการมอง การได้ยิน รวมถึงสมาร์ทดีไวซ์ ครั้งแรกในเมืองไทย
พิธีเปิดนิทรรศการดังกล่าวถูกจัดอย่างเรียบหรู ณ บริเวณชั้น จี ศูนย์การค้า เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ท่ามกลางเซเลบริตี้มาร่วมงานอย่างมากมาย อาทิ อินทิรา ธนวิสุทธิ์,ภัทรพล พึ่งบุญพระ,มนตร์ลดา พงษ์พานิช,ภัทรียา ณ นคร,กรกนก ยงสกุล,คณชัย เบญจรงคกุล,วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ, พิชญ์ กาไชย ฯลฯ โดยได้รับเกียรติจาก บุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) มาเป็นประธานเปิดงาน ร่วมกับ ศุภกรณ์ เวชชาชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโพสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย จำกัด ,ปิยะวรรณ ลีละสมภพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัทสรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด และ สิริมน ณ นคร ประธานกลุ่มกรรมการผู้จัดการ บริษัท โพสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย จำกัด
นิทรรศการ The Passcode to The Fashion Journey (เดอะ พาสโค้ด ทู เดอะ แฟชั่น เจอร์นี่)” หรือ รหัสผ่านเส้นทางสู่แฟชั่น ถือเป็นนิทรรศการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย เพราะได้นำเอาเรื่องราวของ 30 กูรู ผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงแฟชั่นเมืองไทย ในสาขาอาชีพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นางแบบ ช่างภาพ ดีไซเนอร์ แฟชั่นนิสต้า หรือ แม้แต่ออกาไนเซอร์มือทอง มาถ่ายทอดตำนานความรัก และประสบการณ์ด้านแฟชั่น ในมุมมองต่างๆ ที่พวกเขาผ่านมา เพื่อเป็นแสงสว่างนำทาง หรือเปิดประตูให้คนรุ่นใหม่ก้าวเข้าสู่โลกแห่งแฟชั่นได้อย่างปลอดภัย โดยมีพวกเขาเป็นผู้นำทางให้
สำหรับ 30 กูรูผู้ทรงอิทธิพลในโลกแห่งแฟชั่น ที่ถูกถ่ายทอดผ่านดิจิตอล หรือ QR Code ครั้งแรกในประเทศไทยครั้งนี้ ประกอบด้วย เอเลี่ยน-กัญญณัท บำรุงพงษ์,ณัฐ ประกอบสันติสุข,กบ-เมนาท นันทขว้าง,มี่-มิลิน ยุวจรัสกุล,ต้อย นคร สัมพันธารักษ์,คริสติน่า อากีล่าร์,ตือ-สมบัษร ถิระสาโรช,ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม,เป็ด-อภิชาต นรเศรษฐาภรณ์,รอง-จิตต์สิงห์ สมบุญ,อาร์ต-อารยา อินทรา,พลอย-ชวพร เลาหพงศ์ชนะ,สุวรรณี สุคนธา,ม้า-อรนภา กฤษฎี,ธีระพันธ์ วรรณรัตน์,สิ-พิชญ์สินี ตันวิบูลย์,หมู-พลวัฒน์ อัศวะประภา,อิศร์ อุปอินทร์,ภาณุ อิงคะวัต,กุ๊กกี้-ทินทร อัศวรักษ์,ศิริชัย ทหรานนท์,เซียน-นภดล โชตะศิริ,สมชาย แก้วทอง,เจ้ากอแก้ว ประกายกาวิล ณ เชียงใหม่,ชำนิ ทิพย์มณี,ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล,สมพร ธีรินทร์,ลำยงค์ บุญยรัตพันธุ์,คล้ายเดือน-พิมพ์ดาว-มทินา สุขะหุต,กีรติ ชลสิทธิ์,จีน-กษิดิศ สำเนียง,เอก ทองประเสริฐ,พงษ์สรวง คุณประสพ และ วรรณศิริ คงมั่น-เจสซี่ ดอร์ซีย์
พลพัฒน์ อัศวะประภา ผู้ก่อตั้งและดีไซเนอร์แบรนด์ Asava และ ASV กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลทางแฟชั่นของไทยว่า “เป็นเกียรติมากๆที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในนิทรรศการครั้งนี้ ตัวผมเองนั้นสนใจด้านแฟชั่นมานานมากแล้ว และมีคุณพ่อคุณแม่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่สุดที่ทำให้ผมเข้ามาทำธุรกิจเกี่ยวกับแฟชั่นอย่างจริงจัง ส่วนตัวผมสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงานคือเราต้องเป็นตัวของตัวเอง สร้างสไตล์ของเราขึ้นมา เพื่อให้คนอื่นจดจำความเป็นเอกลักษณ์ของเรา ซึ่งสไตล์นี้สะท้อนอะไรหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ชอบ แนวทางการใช้ชีวิต ที่สำคัญคือตัวเราก็ต้องศรัทธาในผลงานของเราก่อน ก่อนที่จะทำให้คนอื่นมายอมรับ”
มาถึงสามพี่น้อง คล้ายเดือน, พิมพ์ดาว และ มทินา สุขะหุต เจ้าของแบรนด์เสื้อชื่อดัง Sretsis โดยพิมพ์ดาว กล่าวว่า“เราสามคนพี่น้องแต่งตัวด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ และเวลาสังเกตดูคุณแม่ก็จะตัดชุดของเราทั้ง 3 คนให้ไปในแนวทางเดียวกัน เราก็เลยสนุกกับการแต่งตัวด้วยกันอยู่เสมอตั้งแต่เด็กจนโต และยังชอบที่จะอัพเดทเทรนด์แฟชั่นต่างๆ ซึ่งนิตยสารแอลนั้นต้องยอมรับว่า เป็นผู้นำทางด้านแฟชั่นของไทย และสร้างเทรนด์ใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนิทรรศการครั้งนี้น่าสนใจตรงที่ว่า เป็นรูปแบบใหม่ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง พอเอาสมาร์ทโฟนสแกน QR code ก็จะปรากฏเรื่องราวต่างๆของแต่ละท่านขึ้นมา ซึ่งเป็นรูปแบบที่แปลกใหม่และน่าสนใจมากๆ”
ปิดท้ายที่ ขวัญข้าว เศวตวิมล กล่าวหลังจากรับชมนิทรรศการว่า “เป็นนิทรรศการที่น่าตื่นตาตื่นใจมากๆ โดยเฉพาะโซนตรงกลางของนิทรรศการ ที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้ทรงอิทธิพลด้านแฟชั่นที่เป็นระดับตำนาน ไม่ว่าจะเป็นพี่เป็ด อภิชาต, เจ้ากอแก้ว ซึ่งเรื่องราวในชีวิตของพวกเขาเป็นอะไรที่น่าสนใจ ว่าอะไรที่ทำให้เขากลายเป็นผู้ที่โด่งดังและเป็นที่กล่าวขวัญอยู่จนถึง