บลจ.กสิกรไทย เสิร์ฟกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอายุ 6 เดือนต่อเนื่อง อัตราผลตอบแทน 1.80% ต่อปี เสนอขาย 11-17 ส.ค. 58 พร้อมเสนอทางเลือกเพิ่มเติมตอบโจทย์ผู้ลงทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 10, 2015 15:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--บลจ.กสิกรไทย นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ระดับต่ำถึงปานกลาง บริษัทจึงได้เปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุน รวมถึงลูกค้ากลุ่มเดิมที่มีกองทุนครบกำหนดอายุและยังต้องการลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ต่อเนื่อง โดยในระหว่างวันที่ 11-17 สิงหาคม 2558 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีคิว (KEFF6MBQ) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 1.80% ต่อปี โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย นายชัชชัยกล่าวถึงรายละเอียดของกองทุนต่อไปว่า สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีคิว (KEFF6MBQ) จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วย เงินฝาก Union National Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เงินฝาก China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง,ตราสารหนี้ Banco Santander (Brasil) S.A., ประเทศบราซิล, ตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A., ประเทศบราซิล และตราสารหนี้ T.C. Ziraat Bankasi A.S., ประเทศตุรกี โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท นายชัชชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันตัวเลขอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลมีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นอายุระหว่าง 3 เดือน - 1ปี อยู่ที่ 1.44% - 1.45% ดังนั้น หากผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่มากกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ที่กำหนดอายุโครงการ บลจ.กสิกรไทย มีทางเลือกเพิ่มเติมเพื่อตอบโจทย์ผู้ลงทุน โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ในกองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) แต่หากผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้เพิ่มขึ้น และต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้น บลจ.กสิกรไทยแนะนำกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ (K-FIXED) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่มีกรอบเวลาการลงทุนในระยะกลางถึงยาว เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถลงทุนได้ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป และสามารถรับความผันผวนได้ในระดับหนึ่ง แต่หากกองทุนตลาดเงิน และตราสารหนี้ ยังไม่ตอบโจทย์เพียงพอในแง่ของผลตอบแทน รวมถึงผู้ลงทุนสามารถรับความเสี่ยงในระดับปานกลางและสูง บลจ.กสิกรไทย ขอแนะนำให้ผู้ลงทุนปรับพอร์ตมาลงทุนเพิ่มเติมในกองทุนผสม เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้ โดยขอแนะนำกองทุนเปิดเค โกลบอล แอลโลเคชั่น (K-GA) ซึ่งเป็นกองทุนผสมที่มีนโยบายกระจายการลงทุนในหุ้น และตราสารหนี้กว่า 700 หลักทรัพย์ใน 40 ประเทศทั่วโลก เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิด หรือเหมาะกับผู้ลงทุนมือใหม่ที่ยังขาดความชำนาญในการจับจังหวะลงทุนด้วยตนเอง สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนกับกองทุน KEFF6MBQ หรือกองทุนรวมอื่นๆ ของบลจ.กสิกรไทย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ