กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
วันนี้ (๑๐ ส.ค. ๕๘) เวลา ๐๗.๓๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ ๒๑๕/๕๗-๕๘ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไข และป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีเมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๘ เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการดักสกัด และตรวจสอบกลุ่มคาราวานรถจักรยานยนต์ จำนวนกว่า ๒๐๐ คัน ที่ขับขี่ผ่านมายังถนนวิภาวดีรังสิตขาออก หลังได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มรถจักรยานยนต์ขี่มาตามเส้นทางคู่ขนาน ถนนวิภาวดีรังสิตขาออกเป็นจำนวนมาก จนส่งผล ทำให้การจราจรติดขัด ทั้งนี้ กลุ่มจักรยานยนต์ดังกล่าวเป็นกลุ่มคาราวานรถจักรยานยนต์ที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า "ทุเรียนนนท์ก้านยาว" ซึ่งได้นัดรวมตัวกันเพื่อเดินทางไปทำกิจกรรมในเชิงสร้างสรรค์ที่น้ำตกวังตะไคร้ ที่จังหวัดนครนายก ซึ่งกรณีการรวมตัวของกลุ่มจักรยานยนต์ลักษณะคล้ายกันนี้เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียง ที่ จ.สระบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ด้วยนั้น ตนเห็นว่าเป็นสถานการณ์ทางสังคมของเยาวชนที่ต้องให้ความสำคัญจึงได้มอบให้กรมกิจการเด็กและเยาวชน(ดย.)นำกรณีเหล่านี้มาศึกษาวิเคราะห์ และเร่งหามาตรการ แนวทางบริหารจัดการกิจกรรมในรูปแบบที่สร้างสรรค์และเหมาะสมเพื่อเด็กและเยาวชนต่อไป ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด และยังมีการเฝ้าระวังสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่รวมตัวกันขับขี่รถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีครอบครัวพิการ ชายอายุ ๔๐ ปี พิการขาขาด ลูกชายอายุ ๑๔ ปี ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เจาะช่องที่คอเพื่อดูดเสมหะ และแม่ชราเดินไม่ได้ ทั้งหมดอาศัยอยู่ในบ้านสภาพเก่า ทรุดโทรม ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองบัวลำภู (พมจ.หนองบัวลำภู) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง และดูแลเรื่องการปรับปรุง ที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของผู้พิการ และกรณีหญิงชราอายุ ๗๓ ปี ต้องรับภาระเลี้ยงดูหลานสาวอายุ ๑๒ ปี และหลานชายอายุ ๕ ขวบ ที่ถูกพ่อ-แม่ทิ้งไว้ตั้งแต่เล็ก ต้องเดินเท้าไป-กลับโรงเรียนและบ้านวันละกว่า ๕ กม. ทั้งหมดอาศัยอยู่ในบ้านสภาพเก่าทรุดโทรมไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดมุกดาหาร ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร (พมจ.มุกดาหาร) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้ถูกสุขลักษณะ และดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กหญิง-ชาย ในระยะยาวต่อไป