กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--ไทยคม
บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) (“THCOM”) ผู้ให้บริการดาวเทียมของไทย เผยธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง ได้รับการจัดอันดับจากสื่ออุตสาหกรรมดาวเทียมชั้นนำ SpaceNews ให้เป็นผู้ประกอบการดาวเทียมอันดับ 8ของโลก พร้อมรับข่าวดี บรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลลาวในการต่ออายุสิทธิการประกอบกิจการโทรคมนาคมของบริษัทลูกต่อไปอีก 25 ปี เสริมศักยภาพการเติบโตในสายธุรกิจต่างประเทศ โดยครี่งปีแรกของปี 2558 ทำกำไรสุทธิ 1,112 ล้านบาท เติบโต 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม เปิดเผยว่า "ในครึ่งปีแรกของปี 2558 ไทยคมได้รับการเลื่อนชั้นขึ้นเป็น ผู้ประกอบการดาวเทียมอันดับ 8 ของโลก (จากอันดับ 10 ในปี 2557) จากบรรณาธิการ SpaceNews ซึ่งเป็นสื่อด้านอุตสาหกรรมดาวเทียมและอวกาศชั้นนำของโลก การได้รับการจัดอันดับดังกล่าวถือเป็นการสะท้อนศักยภาพของไทยคมในการเป็นผู้นำการให้บริการดาวเทียมแห่งเอเชียที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และยังคงเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง
ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2558 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวมทั้งสิ้น 6,013 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 201 ล้านบาท หรือ 3.5% จาก 5,812 ล้านบาทในครึ่งปีแรกปี 2557 จากรายได้จากการให้บริการดาวเทียม ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในการร่วมค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมากส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,112 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 24% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 โดยมีรายได้จากการให้บริการธุรกิจบรอดคาสต์ซึ่งมีการเติบโตสูง ด้วยจำนวนช่องรายการโทรทัศน์บนดาวเทียมไทยคมถึง 766 ช่องรายการ ประกอบกับมีการรับรู้รายได้จากบริการที่เพิ่มขึ้นของดาวเทียมไทยคม 7 ตั้งแต่ปลายปี 2557
“แม้ว่าในช่วงนี้ ภาวะเศรษฐกิจในประเทศจะมีการชะลอตัวลง รวมไปถึงเกิดความผันผวนในด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ แต่ด้วยนโยบายการจัดการทางการเงินและการบริหารความเสี่ยงทางด้านอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสม รวมถึงความสามารถในการบริหารจัดการ ทั้งจากการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริการแบบครบวงจร (End-to-End service) การบริหารค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ประกอบกับดาวเทียมถือเป็นโครงข่ายพื้นฐานของการสื่อสารโทรคมนาคมที่ยังจำเป็นต้องมีการใช้งานต่อเนื่อง ซึ่งไทยคมมีการให้บริการในหลายประเทศ ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้จึงช่วยสนับสนุนทิศทางการดำเนินธุรกิจดาวเทียมของไทยคม และทำให้ผลประกอบการของไทยคมยังคงมีเสถียรภาพ” นางศุภจีกล่าว
นอกจากความสำเร็จของธุรกิจในไทย ไทยคมยังได้บรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในการขยายอายุใบอนุญาตล่วงหน้าในการให้บริการโทรศัพท์มือถือของบริษัทลูก บริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (แอลทีซี) ต่อไปอีก 25 ปี ตั้งแต่ปี 2565 ถึงปี 2589 ไทยคมมั่นใจว่าการลงทุนธุรกิจโทรคมนาคมครั้งนี้จะสามารถสร้างรายได้ และเสริมศักยภาพการเติบโตของบริษัทในสายธุรกิจต่างประเทศให้แข็งแกร่ง
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แอลทีซีมีผลการดำเนินธุรกิจที่ดี โดยมียอดผู้ใช้บริการโทรศัพท์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังครองส่วนแบ่งในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นอันดับหนึ่งในประเทศลาวถึง 49.52% โดยมีผู้ใช้บริการกว่า 1.8 ล้านราย มีการใช้บริการอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ไร้สาย HSPA และผู้ใช้บริการโทรศัพท์ไร้สาย CDMA Fixed Wireless ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มเป้าหมายในประเทศลาวนั้น ยังมีดีมานด์อีกมาก จากทิศทางการเติบโตของตลาดที่ชัดเจนนี้ ไทยคมจึงได้ตัดสินใจลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศลาว ในรูปแบบการสนับสนุนเงินกู้ยืม เพื่อนำไปใช้ในการชำระค่าต่ออายุสิทธิในการดำเนินธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศลาวต่อไปอีก นับเป็นโอกาสที่จะสามารถขยายธุรกิจของแอลทีซี รวมถึงโอกาสในการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศลาวในอนาคตได้อีกด้วย โดยไทยคมมั่นใจว่าการลงทุนผ่านแอลทีซีในครั้งนี้ จะสามารถสร้างผลกำไรให้กับไทยคมได้ในระยะยาว” นางศุภจีกล่าวเพิ่มเติม
ในส่วนของกลุ่มบริษัทในเครือ บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) ซึ่งให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตและสื่อ ยังคงมีการเติบโตในส่วนของธุรกิจหลักในการให้บริการด้านไอซีที โดยมีจำนวนฐานลูกค้าจากการให้บริการอินเทอร์เน็ตคุณภาพสำหรับลูกค้าองค์กร (Leased line) เติบโตเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน และการให้บริการศูนย์คอมพิวเตอร์ (Internet Data Center: IDC)เติบโตขึ้น 5% ด้าน บริษัท ดีทีวี เซอร์วิส จำกัด (ดีทีวี) ยังคงมุ่งเน้นการขยายธุรกิจภายใต้โครงการ DTV MDU Project โดยนำเสนอการให้บริการแบบครบวงจรให้แก่กลุ่มลูกค้า คอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนท์ และโรงแรม ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้า ในส่วนของบริการแพลทฟอร์ม ดีทีวียังคงพัฒนาแพลทฟอร์มและแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า