กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--IR network
บมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท (ARROW) แรงดีไม่มีตก ทำผลงานครึ่งแรกปี 2558 สุดยอดกว่าปีก่อน โดยโชว์กำไรวิ่งแตะ 117.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.43% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 64.97 ล้านบาท เหตุออเดอร์หนุนเต็มที่ ด้านบอร์ดใจดีสุดๆ อนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลเอาใจผู้ถือหุ้นทันทีในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายวันที่ 8 ก.ย.นี้ “ธานินทร์ ตันประวัติ” มั่นใจปั๊มผลงานปีนี้เข้าเป้าไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท หรือเติบโต 20% ระบุยังคงมุ่งเน้นลดต้นทุนในการผลิต เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 25-30%
นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) (ARROW) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 6 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 ของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 117.88 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 64.97 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 81.43 % ขณะที่รายได้รวมปรากฎว่าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 605.87 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 28.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 471.55.ล้านบาท
สำหรับสาเหตุที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปีนี้มีการเติบโตอย่างมาก เนื่องจากบริษัทประสบความสำเร็จในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับโครงการต่างๆมากขึ้น มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทมียอดขายเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
จากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 3/2558 จึงได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับงวดครึ่งปีแรกของปี 2558 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท จำนวน 251 ล้านหุ้น รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 37.65 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2558 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2551 โดยประกาศปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 26 สิงหาคม 2558 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 8 กันยายน 25l58 อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะยังคงทำผลงานให้ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยยังคงมุ่งเน้นลดต้นทุนในการผลิต เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 25-30% ส่วนรายได้รวมยังคงตั้งเป้าไว้ที่ 1,200 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เนื่องจากจะทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 190 ล้านบาท และคาดว่าจะมีงานใหม่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากภาครัฐและเอกชน
ส่วนโรงงานท่อร้อยสายไฟใต้ดินชนิดอีพ็อกซีเรซินเสริมใยแก้ว ขณะนี้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป็นที่เรียบร้อยแล้วเป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งเริ่มดำเนินการผลิตได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ และจะทยอยรับรู้รายได้ต้นปี 2559 โดยน่าจะสร้างรายได้อย่างมั่นคงในอนาคต
“ที่ผ่านมาการเติบโตของธุรกิจท่อสำหรับงานระบบต่างๆ ในอาคาร มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องส่งผลทำให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างชัดเจนในผลิตภัณฑ์ของ ARROW เห็นได้จากคำสั่งซื้อในปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 150 ล้านบาทแล้ว ซึ่งเชื่อว่าในไตรมาสที่เหลือของปีนี้จะมีคำสั่งซื้อใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาอีกอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้” นายธานินทร์กล่าวในที่สุด