กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--IR network
บมจ.ฟอร์จูนพาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) ส่งซิกครึ่งปีหลัง แนวโน้มผลการดำเนินงานโดดเด่น หลัง Warehouse ใหม่สร้างเสร็จ “สมพล ธนาดำรงศักดิ์”ประกาศใส่เกียร์ห้า เดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 70-80% พร้อมรับออเดอร์ใหม่ ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อื้อ ตุนงานในมือกว่า 600 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 2 ปีข้างหน้า มั่นปี"58 รายได้เติบโต 20% ตามเป้า แถมมาร์จิ้นยังเพิ่มขึ้นอีก 3% รับส้มหล่น 2 เด้ง! บาทอ่อน-ต้นทุนพลาสติกลดตามราคาน้ำมัน บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.04 บาท/หุ้น
นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่ารายได้จะเติบโต 20% จากปีก่อนมีรายได้รวม 1,858 ล้านบาท และคาดว่ามาร์จิ้นในปีนี้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากราคาพลาสติกที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมัน และค่าเงินบาทอ่อนค่ามาอยู่ที่ 35 บาท/ดอลลาร์
“ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 70-80%เมื่อเทียบกับในช่วงครึ่งปีแรกใช้กำลังการผลิตเพียง 50-60% ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายคงที่ให้ลดลง 12% และผลักดันให้อัตรากำไรสูงขึ้น หลัง Warehouse สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำให้บริษัทสามารถผลิตได้ทั้ง 2 สายการผลิต โดยปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ (Backlog) เป็นการรับจ้างผลิตอยู่ที่ 600 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ภายใน 2 ปี”นายสมพลกล่าว
นายสมพล กล่าวว่า แม้อุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้จะชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ แต่ในแง่ของการเติบโตของบริษัทไม่ได้ชะลอตาม เนื่องจากบริษัทเน้นการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มค่อนข้างมาก ซึ่งจะทำให้มีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ดีกว่าการรับจ้างผลิต (OEM) อีกทั้ง ยังมีการผลิตโมเดลใหม่ที่ให้มาร์จิ้นสูง โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากการรับจ้างผลิต 80% ขณะที่สินค้ามูลค่าเพิ่ม และการผลิตสินค้าโมเดลใหม่ มีสัดส่วนรายได้รวมกัน 20% ซึ่งสินค่ามูลค่าเพิ่มและโมเดลใหม่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 45% สูงกว่าการรับจ้างผลิต
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายการลงทุนเพิ่มอีกปีละ 5 สาขาภายใน 5 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างมองหาพันธมิตรร่วมทุนต่างประเทศ โดยสนใจประเทศตุรกี อินเดีย อเมริกา จีน และแม็กซิโก เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ และกระจายความเสี่ยงการลงทุน สร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับบริษัทและผู้ถือหุ้นในอนาคต ซึ่งล่าสุดมีพันธมิตร 2-3 รายสนใจติดต่อเข้ามา อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องของรูปแบบการลงทุน ซึ่งต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 มีรายได้รวม 915.57 ล้านบาท กำไรสุทธิ 91.52 ล้านบาท
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทยังมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2558 ( 1 มกราคม-30 มิถุนายน 2558) ในอัตรา 0.04 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายในวันที่ 10 กันยายน 2558