กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--เอเชีย เอวิเอชั่น
บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ผู้ถือหุ้นใหญ่สายการบินไทยแอร์เอเชีย เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2558 ที่ผ่านมา ไทยแอร์เอเชียมีรายได้รวม 6,885 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 374 ล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุนสุทธิในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากค่าโดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นและการปรับตัวลงของราคาเฉลี่ยน้ำมันเชื้อเพลิง โดยครึ่งปีแรก 2558 มีผลประกอบการ รายได้รวมอยู่ที่ 14,619 ล้านบาท กำไรสุทธิรวม 1,297 ล้านบาท โดย AAV มีกำไรสุทธิ (ส่วนของบริษัทใหญ่) ไตรมาส 2 ปี 2558 และ ครึ่งปีแรกของปี 2558 อยู่ที่ 206 ล้านบาท และ 712 ล้านบาท ตามลำดับ พร้อมประกาศรุกช่วงครึ่งปีหลัง เปิดฐานปฏิบัติการการบิน “อู่ตะเภา” โอกาสใหม่การท่องเที่ยวภาคตะวันออก บินตรงสู่หลากหลายเส้นทางประเทศจีน เชื่อได้รับการตอบรับที่ดีแน่นอน
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AAV และผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ประจำปี 2558 ของ AAV ยังเป็นที่น่าพอใจต่อเนื่องจากไตรมาสแรก ทำให้เห็นว่าภาคการท่องเที่ยวที่เคยชะงักในปีก่อนจากสถานการณ์การเมืองได้กลับมาคึกคักแล้ว โดยในไตรมาส 2 นี้ ขนส่งผู้โดยสารรวม 3.54 ล้านคน และมีอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) อยู่ที่ร้อยละ 80 เพิ่มขึ้น 2 จุด จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเมื่อสิ้นสุด ณ ครึ่งปีแรก ไทยแอร์เอเชียขนส่งผู้โดยสารไปแล้ว 7.24 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มีฝูงบินแอร์บัส เอ 320 รวม 43 ลำ และกำหนดรับเพิ่มอีก 2 ลำในครึ่งปีหลัง รวมเป็น 45 ลำตามแผนที่วางไว้ ภายในสิ้นปี 2558 นี้แน่นอน
นอกจากผลประกอบการที่น่าพอใจแล้ว ในปีนี้กลุ่มสายการบินแอร์เอเชียยังรักษาแชมป์ ได้รับโหวตจากคนทั่วโลก ให้เป็นสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลก 7 สมัยซ้อน (ปี 2552-2558) จากการจัดอันดับของสกายแทรกซ์ รวมทั้งไทยแอร์เอเชีย (เที่ยวบิน FD) ยังได้รับรางวัล “สายการบินที่ดีที่สุด” จากการโหวตของนักท่องเที่ยวจีนกว่า 5.56 ล้านคนผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ Weibo ในงาน The Best of Thailand Voted by Chinese Tourists ซึ่งจัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ยืนยันการยอมรับและไว้วางใจจากคนทั่วโลกได้อย่างดี
อย่างไรก็ตามนายธรรศพลฐ์ มั่นใจว่าการดำเนินการของไทยแอร์เอเชียในครึ่งปีหลังจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้แน่นอน และยืนยันไม่ได้รับผลกระทบจากกรณี ICAO ตรวจสอบกรมการบินพลเรือนของไทย โดยเฉพาะในตลาดจีนที่ให้การตอบรับอย่างดี ทั้งนี้ไทยแอร์เอเชียจะสร้างโอกาสใหม่ในการเปิดฐานปฏิบัติการการบินใหม่ที่ “ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง พัทยา” เพื่อเปิดบินตรงสู่ประเทศจีนและหลากหลายเส้นทาง ซึ่งจะสามารถเจาะตลาดท่องเที่ยวภาคตะวันออกได้อย่างดี โดยเฉพาะเมืองพัทยา ที่เป็นปลายทางยอดนิยมของชาวจีนและมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเปิดเส้นทางการบินระหว่างประเทศแห่งใหม่ จากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่บังกาลอร์ ซึ่งเป็นการบุกตลาดอินเดีย โดยเส้นทางดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการบินในวันที่ 1 กันยายน 2558 นี้
ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2558 นายธรรศพลฐ์ยังยืนยันตามแผน ไทยแอร์เอเชียจะมีฝูงบินแอร์บัส เอ 320 รวมทั้งสิ้น 45 ลำ และตั้งเป้าหมายผู้โดยสารอยู่ที่ 14.5 ล้านคน โดยมองว่าหากสถานการณ์ท่องเที่ยวภาพรวมของไทยยังคงคึกคักต่อเนื่อง ปีนี้ไทยแอร์เอเชียจะมีผลประกอบการที่น่าพอใจมากแน่นอน
?