กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--IR network
EPCO แกร่งเกินพิกัด! โค้งแรกปี"58 กำไรสุทธิ 138 ลบ. เพิ่มขึ้น 10.9%บอร์ดไฟเขียวจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.14 บาท/หุ้น ลุยโซลาร์ฟาร์มในต่างแดนเต็มเหนี่ยวเป้ากำลังการผลิต 100 MW ดัน"บ่อพลอย โซล่าร์"เข้าตลาดหุ้นต้นปี"59 ตามแผน
บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) อวดผลงานครึ่งปีแรกของปี"58 กำไรสุทธิ 138 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 124.5 ล้านบาท อานิสงส์รายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 12.8% บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.14 บาท/หุ้น "ยุทธ ชินสุภัคกุล"มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโต 10% กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 15% หลังเริ่มรับรู้รายได้จากการขายไฟในแดนปลาดิบตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 58 เดินหน้าลงทุนโซลาร์ฟาร์มในต่างประเทศเต็มสูบ เล็งหาให้ครบ 100 เมกะวัตต์ ก่อนดัน "บ่อพลอย โซล่าร์"เข้าตลาดหุ้นในช่วงต้นปี"59 ตามแผน
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออกจำกัด (มหาชน) (EPCO) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 มีกำไรสุทธิ 138 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 124.5 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการขายในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 461 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.25 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้จากการขาย 455 ล้านบาท
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทยังมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2558 ( 1 มกราคม-30 มิถุนายน 2558) ในอัตรา 0.14 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายในวันที่ 9 กันยายน 2558
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ นายยุทธ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10 % กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจะเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น โครงการแรกที่จะจ่ายไฟฟ้า 8-12 เมกะวัตต์ โดยจะเริ่มทยอยเปิดเดินเครื่องตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2558
"แนวโน้มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 45% จากเดิมอยู่ที่ 37% เนื่องจากในปีที่ผ่านมารับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยประมาณ 16.5 เมกะวัตต์ ก่อนที่จะเพิ่มเป็น 27.5 เมกะวัตต์ ภายในปีนี้ และในปี 2559 จะเพิ่มเป็น 50-60 เมกะวัตต์"นายยุทธกล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2558 บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ แบ่งเป็นเงินทุนของบริษัทในสัดส่วน 25% และเงินกู้สถาบันการเงินต่างประเทศ 75% ซึ่งต้นทุนต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการกู้เงินจากสถาบันการเงินในประเทศไทย
"เรายังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซลาร์ฟาร์มที่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศที่กำหนดจะทยอยสร้างโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น 6 โครงการ และเรายังคงมองหาลู่ทางการลงทุนในประเทศอื่นเพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน เพื่อสร้างรายได้และผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัท และกระจายความเสี่ยงในการลงทุน"นายยุทธกล่าว
ส่วนความคืบหน้าการนำบริษัทบ่อพลอย โซล่าร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ EPCO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการตั้งที่ปรึกษาทางการเงินเรียบร้อยแล้ว คาดว่าต้นปีหน้าน่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนตลาดหุ้นได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมแผนลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้มีกำลังการผลิตครบ 100 เมกะวัตต์ ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯตามแผน