กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
อดีตหนุ่มวิศวกรไฟฟ้าอาวุโส เผยความสุขที่กำหนดได้ด้วยตัวเองรับรายได้หลักแสนที่มาพร้อมกับความมั่นคงในชีวิต เผยความสำเร็จในงาน GREAT DAY
จิรชีพ เฮ้ง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ประเทศไทย บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ให้การต้อนรับผู้ที่สนใจอยากคว้าโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ ในการเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับ "ยูนิลีเวอร์" หลายร้อยคน ณ อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ที่มารวมตัวกันเพื่อร่วมงาน "GREAT DAY (เกรท เดย์) เราทำได้ คุณทำได้" พร้อมรับฟังการแชร์ประสบการณ์แห่งความสำเร็จจากเหล่าบุคคลต้นแบบทั้ง 5 คน ที่ประสพความสำเร็จกับการเป็นคู่ค้าร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างยูนิลีเวอร์ เหมือนเช่น ผู้บริหารสโมสร 5 ล้าน กิติเดช ใจเสือ Area Executive Business Associate อดีตวิศวกรไฟฟ้าอาวุโสโรงงานผลิตยายักษ์ใหญ่ ที่มองเห็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ เดินทางจากอยุธยามากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาและทำธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค อย่างจริงจัง จนประสพความสำเร็จ และรับรายได้หลักแสนอย่างมั่นคง พร้อมทริปท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คูลซีฟ
กิติเดช ใจเสือ Area Executive Business Associate เผยว่า "อดีตผมเป็นศวกรไฟฟ้าอาวุโสโรงงานผลิตยายักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งในอยุธยา ในตอนนั้นงานดีมากครับ ผมยังมีโอกาสเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมได้ขึ้นเครื่องบิน ทำให้ผมมีความฝันว่า ถ้ามีโอกาสจะไปเที่ยวรอบโลก และจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปด้วย ซึ่งในความเป็นจริง เป็นเรื่องที่ไกลตัวผมมากครับ เพราะขนาดเงินเดือนยังพอต่อการใช้จ่ายแต่ละเดือนที่ผมมี ผมจึงหารายได้เสริมด้วยการเขียนแบบไฟฟ้า จนวันหนึ่งเพื่อนที่สนิทกันโทรศัพท์มาหา บอกว่าอยากให้มาดูโปรเจคงานที่ยูนิลีเวอร์ ในหัวผมตอนนั้นรับปากไปทันที พร้อมเตรียมเครื่องคิดเลข ตารางโหลดสายไฟ
แต่เมื่อมาถึง กลับเจอเครื่องสำอาง สกินแคร์ ผมรู้ทันทีครับว่าเป็นธุรกิจเครือข่าย แต่ในวันนั้นผมมีโอกาสได้เข้าฟังอบรมทั้งที่ปิดใจ แต่ก็ตัดสินใจสมัครเป็นผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค พร้อมซื้อชุดผลิตภัณฑ์มาใช้เพื่อให้วันนั้นผ่านพ้นไป แต่สินค้าเมื่อซื้อมาแล้ว ผมก็ใช้นะครับ ใช้ไปโดยไม่ได้คิดอะไร ผ่านไป 2 อาทิตย์ สาวๆ ในโรงงานก็ทักว่าผมไปทำอะไรมาทำไมหน้าใส พอกลับบ้านพี่สาวที่ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันก็ทักว่าทำไมหน้าใสจัง ผมจึงบอกไปว่าผมใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ พี่สาวสนใจจึงบอกว่าให้พามาซื้อหน่อย ผมจึงได้พาพี่สาวมาที่ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค พร้อมกับตรวจผิวและผม วันนั้นพี่สาวผมซื้อไป 20,000 บาทครับ รายได้จากธุรกิจนี้ของผมจึงเริ่มขึ้น จากการซื้อของพี่สาวผมในครั้งนั้น ทำให้ผมมีรายได้เข้ามาหลักพัน ผมจึงเริ่มเข้าใจในธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์คมากขึ้น และเริ่มรุกในธุรกิจนี้ทันที
เมื่อกลับเข้ามาที่โรงงาน ผมจึงเริ่มแนะนำผลิตภัณฑ์ และชักชวนสาวๆ ในโรงงานเข้ามาที่ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ซึ่งเขาก็มากันครับ และซื้อผลิตภัณฑ์กลับไปกันคนละ 7,000 – 8,000 บาทได้ ในเดือนต่อมา ผมจึงมีรายได้ขยับขึ้นเป็นหลักหมื่น ผมไม่รีรอรับถามอัพไลน์ทันทีว่า ถ้าผมอยากมีรายได้ที่มากขึ้นผมจะต้องทำยังไง อัพไลน์แนะนำว่าผมต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน เพราะหากเรามีความฝันมีเป้าหมาย คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จทั้งปวง ในขณะที่ผมเองก็ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ เรียนรู้ และชวนคน ซึ่งเป็นเทคนิคง่ายๆ ที่สามารถทำให้ธุรกิจของเราโตขึ้นครับ
ผมจึงเริ่มวางแผนเป้าหมายของผม ซึ่งในตอนนั้นผมมีคุณยายที่ชรามาก ผมผูกพันกับท่านมากครับ เพราะท่านเป็นคนดูแลผมมาตั้งแต่เด็ก ผมจึงวางเป้าหมายของผมว่าใน 1 ปี ผมจะต้องปลดหนี้สิน มีเวลาดูแลคุณยาย และจะต้องมีรายได้จากธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์คให้ได้หลักแสน และต้องขึ้นตำแหน่งเป็น Area Executive Business Associate ให้ได้ ทุกวันหลังเลิกงาน ผมจะขับรถเก่าๆ ของผมที่ซ่อมแล้วซ่อมอีกจากอยุธยาเข้ามาที่ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค เพื่อมาเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของตัวเอง พอเมื่อครบ 1 ปี ผมก็สามารถปลดหนี้สินต่างๆ และมีรายได้จากธุรกิจเครือข่ายนี้เท่าเงินเดือนประจำที่ทำอยู่ ผมตัดสินใจลาออกและมาฟูลไทม์กับธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ทันที และยังมีเวลาได้ดูแลคุณยายที่ผมรัก และยังมีโอกาสพาคุณพ่อคุณแม่ไปท่องเที่ยวต่างประเทศแบบเอ็กซ์คลูซีฟหลายประเทศจากธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์คอีกด้วย และสิ่งที่ผมมองว่ามันยิ่งกว่าเกินฝันของผม คือผมมีโอกาสได้เป็นเจ้าของรถยนต์ยุโรปสุดหรูมูลค่าหลายล้าน ซึ่งเปลี่ยนจากรถคันเก่าที่ซ่อมแล้วซ่อมอีก และขับพาเรามาเรียนรู้ธุรกิจทุกเย็นหลังเลิกงาน เวลานั้นผมรู้ทันทีครับว่า ความสุขของผมตอนนี้ได้ถูกกำหนดด้วยตัวผมเองแล้ว จากธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ด้วยเงินลงทุนเพียง 600 บาท
นอกจากนี้ธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ยังเปิดโอกาสให้ผมนั้นสามารถขยายทีมงานไปยังต่างประเทศได้ ปัจจุบันผมมีทีมงานในประเทศมาเลเซีย และผมยังจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ เพราะยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์คยังมีแผนจะขยายธุรกิจเครือข่ายให้ครอบคลุมไปทั่วเอเชีย ซึ่งผมเชื่อมั่นมากครับว่าธุรกิจนี้ทำได้แน่นอน ด้วยชื่อเสียงของยูนิลีเวอร์ที่สั่งสมมานาน และมีอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก
ถ้าคุณคิดว่าคุณชนะ คุณจะชนะ ถ้าคุณคิดว่าคุณจะประสพความสำเร็จ ชัยชนะจะเป็นของคุณ ความสำเร็จบนโลกใบนี้ ใช่ว่าผู้ที่แข็งแรงกว่า หรือเร็วกว่าจะประสพความสำเร็จเสมอไป ไม่ช้าก็เร็ว ผู้ที่ประสพความสำเร็จ คือผู้ที่เชื่อว่าฉันสามารถทำได้ เมื่อผมทำได้ คุณก็ทำได้เช่นกันครับ"
เต็มอิ่มกับประสบการณ์ความสำเร็จจากผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ในงาน "GREAT DAY (เกรท เดย์) เราทำได้ คุณทำได้" ที่มาร่วมแชร์แบ่งปันเส้นทางสู่ความสำเร็จ ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้พบโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิต เพราะยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค เชื่อว่า "เราทำได้ คุณทำได้"