กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--อาร์เอส
กลายเป็นประเด็นแซ่บเพียงชั่วข้ามคืนเมื่อ "โย-ยศวดี" นางแบบก้านยาวชื่อดัง เดือดจัดด้วยเหตุที่เข้าใจว่า "เต้ กัลย์จาฤก" ผู้จัดรายการนางแบบรายการหนึ่ง และทายาทบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ เอาชื่อไปใช้ในการโปรโหมต โยงประเด็นกับคู่กรณีอย่าง "บี-น้ำทิพย์" งานนี้ดูไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ เมื่อทั้งคู่ต่างเปิดศึกน้ำลายผ่านโซเชี่ยล จนฝ่ายผู้จัดโผล่คำว่า "ดาราตลก" มาเสียดสีแทงใจสาวโย ทีมข่าว "ช่อง 2" ข่าวลึก บันเทิงร้อน เลยต่อสายตรงถึงนางแบบสาวเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบคำถามแบบเชือดนิ่มๆ ก่อนเหน็บอีกฝ่ายเบาๆ ว่า "ควรประมวลความคิดของคุณมากกว่านี้" พร้อมกับถาม "ดาราตลกผิดตรงไหนเหรอคะ?"
จุดเริ่มต้นที่เราโพสแบบนั้นคืออะไร ?
"ต้องบอกว่าเรื่องมันมาหลายเดือนก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการจัดรายการ รายการที่เป็นรายการนางแบบรายการหนึ่ง แล้วก็ในการเปิดตัวของเม้นท์เทอร์ที่ต้องมีนางแบบไปร่วม ทีคู่กรณีของเราไปร่วม 2-3 เดือนที่เหมือนกับการประโคมข่าวในการโปรโหมตรายการนี้มีชื่อโยเข้าไปร่วมอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะมาจากปากคุ่กรณีเอง หรือมาจากสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ แต่คราวนี้พอเราเห็นว่ามันเยอะขึ้นเมื่อประมาณซัก 2 เดือนครึ่งกว่าๆ ที่แล้วเนี่ย ก็เลยติดต่อไปทางรายการว่ามันคืออะไร ทำไมถึงเอาชื่อไปใช้ตลอด โดยที่ตัวเราเองก็ไม่เคยได้รับการติดต่อจริงๆ เนื้อหาในการโปรโหมตก็จะประมาณว่า 2 คน ทั้งตัวโย แล้วก็คู่กรณีจะเข้าชิงการเป็นเม้นท์เทอร์ของรายการนี้"
เป็นการเข้าชิง ?
"ใช่ เหมือนกับให้คนตั้งข้อสงสัยว่าใครกันแน่ที่จะได้เป็น เอาตามจริงคือถ้าใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ถูกติดต่อทางการก็ควรจะต้องรีบบอก ควรรีบบอกกับประชาชนว่ามันไม่ใช่นะ ไม่ว่าใครคนใดคนหนึ่งจะถูกเลือกก็ตาม ถ้าอีกคนหนึ่งเขาไม่เกี่ยวเนี่ยไม่ควรดึงเข้ามาเกี่ยวข้อง มันอาจจะมีประเด็นในเรื่องของอาหารมาก่อนที่ทำให้มันยังเป็นประเด็นที่ยังเขียนได้เรื่อยๆ แต่โยกัลับมองว่ามันเก่า แล้วมันก็นานมาก ซึ่งตัวโยเองรู้อยู่แล้วว่าใครที่เป็นเม้นท์เทอร์รายการนี้ เราก็เลยรู้สึกว่าเหมือนโดนหลอกใช้นะ พอเราเริ่มเงียบเขาก็ไม่ได้ทำอะไรให้ มันก็ยังมีข่าวออกไปเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดเรารู้สึกว่ามันเยอะมากแล้ว พอมันเยอะมาก เมื่อ 2 วันที่แล้วคู่กรณีก็ออกมาให้ข่าวอีก ซึ่งโดยทั่วไปเขาก็จะเป็นคนให้ข่าวเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ให้ข่าวก็จะมีชื่อเราเข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเปลี่ยนเรื่องราวไป เป็นเรื่องราวนี้ เรื่องราวนั้น 2 วันที่แล้วก็กลับกลายเป็นเรื่องราวที่โอเคเขาก็ประกาศว่าเขาไม่อยากร่วมงานกับเราอีก คือถ้ามีผู้จัดท่านใดก็ตามหรือจะมีงานอะไรก็ตาม ต้องเลือก ถ้ามีเราก็ไม่มีเขา มีเขาก็ไม่มีเรา มันก็เลยกลายเป็นกลับไปประเด็นเดิมของการเม้นท์เทอร์ของรายการนี้ค่ะ มันจะไม่อะไรเลยถ้าผู้จัดรายการไม่นำบทสัมภาษณ์ของคู่กรณีไปโพสลงในไอจีส่วนตัวของตัวเอง มันยิ่งชักจูงให้เป็นการโปรโหมตรายการมากขึ้นไปอีก คือตัวโยเองเริ่มจะเฉยๆ แต่ด้วยความรู้สึกว่าเราพูดไปหลายครั้งเขาก็ไม่ค่อยอะไรนะ เขาก็ทำเป็นเหมือนทองไม่รู้ร้อน เราก็โอเค เราก็ไม่ใส่ใจ แต่ตือพี่สาวโย(เอ) คงเซ็นซิทิฟในเรื่องนี้ พี่เอเขาก็เลยเข้าไปเขียนในไอจีผู้จัดรายการว่าการที่นำเรื่องราวของโย กับคำสัมภาษณ์ของคตู่กรณีมาลงในไอจีเนี่ยมันคืออะไร ทั้งที่จริงๆ ตัวโยเองไม่ได้โดนเรียกติดต่อใดๆ ทั้งสิ้น แล้วคือมาเป็นตัวเลือกได้ยังไง เหมือนว่าให้ทางฝ่ายคู่กรณีสัมภาษณ์ได้เรื่อยๆ ว่าเป็นตัวเลือกโน้นนี่นั่น ทั้งที่จริงๆ คือมันไม่เกี่ยว"
ไม่เคยไกด้รับการติดต่อว่าเอาชื่อ มาใช้ เอารูปมา ?
"ไม่เคยค่ะ ไม่มีค่ะ แล้วตอนที่มันเป็นรูป มันเป็นรูป 3 คน เป็นรูปขอโย คู่กรณี แล้วก็มีรูปของนางแบบอีกท่านหนึ่งที่เหมือนกับโปรโหมตไป เขาก็อ้างว่าเขาไม่รู้ ไม่เกี่ยวข้อง เพราะว่ามีเด็กคนหนึ่งสร้างกระทู้พันทิพย์ขึ้นมา โยก็เลยติดต่อน้องคนนี้ น้องคนที่สร้างกระทู้พันทิพย์ที่เอารูปเรา 3 คนมาลฃง น้องเขาบอกว่าเขาทำไปตั้งแต่ 7-8 เดือนที่แล้ว เหมือนซีซั่น 2 กำลังจะมา แต่ตอนนั้นมันนานมากแล้วเขาก็ไม่คิดว่ามันจะมีใครนำตรงนี้กลับมาใช้ นอกจากว่าคนที่เห็นผลประโยชน์ตรงนี้จริงๆ ที่ไปเอารูปต่างๆ ของน้องเขามาโปรโหมต ซึ่งก็เคลียร์กันไปโอเคมันก็ต้องมีคนคนหนึ่งแหละที่อยากได้ผลประโยชน์จากตรงนี้ที่ทำ คงไม่ใช่โยแน่ๆ แล้วแหละ เพราะว่าโยเป็นคนที่เสียผลประโยชน์ทั้งหมด มันก็เลยกลับมาเป็นจุดที่ว่าเออแล้วมันจะจบยังไงดี คุณจะเปิดตัวเม้นท์เทอร์ของคุณได้หรือยัง มันจะได้เลิกเกี่ยวข้องกับตัวฉัน พอท้ายที่สุดเขาก็เหมือนส่งให้เลขาเขาโทรมาคุยเมื่อเดือนที่แล้วว่าไม่รู้เรื่องเลยนะ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น โน้นนี่นั่นเราก็โอเคงั้นก็ขอให้จบ เปิดตัวแล้วก็คงจะไม่มีอะไรอีก พอวันเปิดตัวกลายเป็นมันโหมโรงเรื่องเราเต็มที่เลย"
เหมือนว่าต้องมีการตัดสินใจเรื่องใคร ?
"กลายเป็นว่าเราก็(หัวเราะ) การที่เขาเรียกวเราว่าดาราตลก ทำให้เราเป็นตัวตลกจริงๆ อะไรแบบนี้มากกว่า"
ล่าสุดเพิ่งโพสแบบร่ายยาว เป็นเพราะคู่กรณีพูด ผู้จัดโพสแบบนั้น ?
"ถูกต้องค่ะ คือจะไม่พูดอะไรเลยถ้าพี่สาวโยเขียนไปถามแบบดีๆ"
เท่าที่อ่านก็ใช้คำสุภาพ ?
"ค่ะ ถามดีๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมคุณถึงยังนำกระแสของคน 2 คนมาใช้ มันถูกต้องแล้วหรือ แต่สิ่งที่ตอบกลับเรามาคือ(หัวเราะ) คำที่ใช้กับประโยคด้วยรวมเนี่ยมันค่อนข้างแปลก ดูแล้วต้องการนำเสนออะไรกันแน่ พยายามจะพูดเหมือนกันว่าไม่ได้เรียกอะไรนะ ก็คือไม่ได้คติดต่อ โน้นนี่นั่น แล้วก็ทางรายการเองไม่มีนโยบายที่จะสร้างกระแสกับดาราตลก ตอนแรกพยายามจะคิดในแง่บวก เขาอาจจะอยากเขียนคำว่าไม่คิดอยากใช้กระแสกับดารา เว้นวรรคตลกจังเลย(หัวเราะ) คิดบวกนะ พยายามจะคิดบวกถ้าเขาเขียนผิดจริงๆ ก็จะนั่งรอดูว่าเขาจะแก้ไหม เพราะคนทั่วไปก็อ่านแล้วมันก็เป็นคำนี้ เหมือนตอกย้ำ เสียดสี ทิ่มแทงเรา แต่พอผ่านมาแล้วก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ โยเลยตัดสินใจว่าเอาอืมเราคงเป็นตัวตลกในสายตาเขาจริงๆ จึงตัดสินใจที่จะเขียนว่าขอเคลียร์ในความหมายของคำคำนี้ เพราะในความรู้สึกโยเนี่ย ดาราตลกผิดตรงไหนเหรอคะ ตัวโยเองไม่ใช่ดาราแล้วไม่ได้เล่นตลกใดๆ การที่คุณนำเอาตรงนี้มาเปรียบเทียบเพื่ออะไร เปรียบเทียบว่าถ้าเปฌ็นนางเอกถึงจะดี ตลกถึงจะแย่ หรือยังไงกันแน่สิ่งที่พยายามจะสื่อ ก็พุชออกไป 1 ทีก็ยังไม่มีการตอบกลับใดๆ ทั้งสิ้น ก็อยากจะฟังว่าทางผู้จัดจะมีข้อแก้ตัวยังไงกับตรงนี้"
เราติดแทกทีมดาราตลกด้วย ?
"ทุกอย่างก็มีจะมีทีม(หัวเราะ) ทีมนั้น ทีมนี้ กลับกลายเป็นพอโยโพสเสร็จก็มีทีมโยมาด้วย(หัวเราะ) เราก็ไม่อยากให้มันไปแนวนั้นนะ เพราะจุดประสงค์จริงๆ ณ เวลานี้ไม่ได้เขียนเพราะความโกรธ คนอาจจะคิดว่าเพราะโกรธที่เขียน หรือเพราะมีปัญหากับคู่กรณี เอาเคลียร์ๆ นะคะกับคู่กรณีเนี่ยเรื่องราวของเราผ่านมานานมาก ตัวโยเองแทบไม่เคยพูดถึงเขา ตัวเขาจะพูดถึงโย โยไม่ว่า แล้วแต่อะไรที่สบายใจ อยากจะทำอะไรให้เขาทำ ตัวโยเลิกยุ่งไปนานมากแล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรู้สึกใดๆ กับคู่กรณี แต่ต้องการความถูกต้องในสิ่งที่ผู้จัดรายการนำเสนอ ว่าคุณนำเสนออะไรกับคำคำนี้ แค่นั้นเอง"
บางกระแสก็ว่าเราใช้คำรุนแรงเหมือนกัน ?
"(หัวเราะ)เป็นคนที่พูดอะไรก็พูดจากใจ พูดตรงๆ เพราะนั่งมองมาก็หลายเดือนมากๆ ก็ยังไม่เห็นกระแสอื่นในการที่จะนำมาใช้ คุณเป็นรายการะดับชาติขนาดนี้ ถ้าคุณคิดว่ารายการคุณยิ่งใหญ่จริงๆ คุณน่าจะมีมุมมองอื่นๆ ในการที่จะโปรโหมตตัวเม้นท์เทอร์ของคุณ ในการที่จะโปรโหมตต่างๆ ของรายการคุณ กับการดึงเอากระแสที่มันเก่ามากๆ เกาะกระแสคน 2 คน คนอื่นเขาก็รู้กันมาจนหมดเป็นปีๆ แล้วค่ะ การที่เขียนนี่คือพูดให้ตรงใจที่คิดทั้งหมดไม่มีการประชดประชัน แค่มีความรู้สึกว่าเอสเป็กบางสิ่งบางอย่างที่มันควรจะดีกว่านี้กับรายการที่มีชื่อเสียงระดับโลกเลย ในการที่พูดคำว่าให้เอาสมองส่วนอื่นกลับไปคิด เพราะมีความรู้สึกว่าคอมเม้นท์นี้คนอื่นก็พูดมาเยอะเกี่ยวกับผลงานของผู้จัดท่านนี้ คงไม่ใช่โยคนแรก แต่กับการที่นำมาใช้คำคำหนึ่ง เช่นคำว่า ดาราตลก นำมาใช้ในการเสียดสีโยมองว่าคุณเป็นคนที่อยู่ในวงการ ผู้ทำละคร วงการที่คลุกคลีอยู่กับนักแสดงต่างๆ มานานมากคุณควรประมวลความคิดของคุณมากกว่านี้ในการใช้คำซักคำ ไม่ว่าคำนั้นจะออกมาเพื่อประชดประชันหรืออะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบทั้งหมดทั้งมวล แม้กระทั่งตัวเองเนี่ยอาจจะไม่ใช่นักแสดงร้อยเปอร์เซ้นต์นะคะ แต่สิ่งที่โยพูดก็คือคุณต้องใช้คำพูดมากกว่านี้"
คิดไหมพอมีเรื่องนี้ มีชื่อเรารายการนี้ก็ทำให้หลายคนจับตามองจริงๆ ?
"โยว่าอาจะเป็นเรื่องดีนะคะ ที่ทำให้คนอาจจะดูมากขึ้นว่า คราวนี้คอมเม้นท์ต่างๆ ที่อาจจะดี ไม่ดียังไงก็เข้าไปดูของจริงเลยแล้วกัน คงไม่ต้องใช้ชื่อเสียงของใครทั้งสิ้นในการโปรโหมต ตอนนี้ถือว่ามีคนจับตามองจริงๆ เพราะจากไอจีโยเองคนก็สงสัยเยอะ อะไรต่างๆ คราวนี้เขาก็คงต้องผลิตอะไรที่มันออกมาดีจริงๆ"
กลัวไหมเรื่องนี้จะแรงขึ้นและไม่จบ ?
"โยว่าแหตุการุนแรงมันไม่มีผลกระทบอะไรกับโยในสิ่งที่มันผ่านมาแล้วนะคะ แม้กระทั่งกับคู่กรณีเองมันก็ไม่ได้กระทบอะไรจริงๆ ต่อให้จะออกมาประกาศว่า ณ วันนี้จะไม่ทำงานร่วมกัน ใครต้องเลือกอะไรก็ตาม โยพูดตรงนี้เว่าแล้วแต่ความสบายใจ ตัวโยแองมีงานหลายอย่างที่ต้องทำ ชีวิตก็ไม่ได้โฟกัสในอย่างใดอย่างหนึ่ง มีความรู้สึกว่าวงการใดวงการหนึ่งมในจะต้องถูกกลืนกินทุกอย่างที่เป็นเราทั้งหมด อะไรที่เราสบายใจเราก็จะทำ อะไรที่ไม่สบายใจก็ไม่ทำ ไม่ได้อายุน้อยแล้วนะคะ แต่ในเรื่องของผู้จัดเองอันนี้สำหรับตัวโยเองโยก็จบนะ เพราะไม่ได้คาดหวังคำขอโทษอะไรใดๆ เพราะคิดว่าคงไม่มี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ก็ปล่อยค่ะ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไร"
ไม่คิดว่าต้องเดคลียร์อะไรหลังจากนี้แล้วใช่ไหม ?
"ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ค่ะ"
ในอนาคตสามารถร่วมงานกับคู่กรณี และผู้จัดได้ไหม ?
"ตัวโยเองไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร แต่ถ้าใครที่ทำงานกับโยแล้วเขาไม่สบายใจนั่นคือปัญหาของเขา ตัวโยสามารถทำงานกับใครก็ได้"
ยืนยันเรื่องงานเรารมีสปิริต 100% ?
"เราอย่าวงการมา 23 ปีเนาะ(หัวเราะ)"
สุดท้ายนี้อยากบอก อย่าเคลียร์อะไรอีกไหม ?
"ไม่ได้อยากเคลียร์ตัวเองอะไรทั้งทิ้นนะคะ ทุกวันนี้ใช้ชีวิตของเราจริงๆ ไม่ได้ขึ้นอะไรกับใคร แล้วก็อย่างที่บอกว่าทำอะไรตามความสบายใจ ทำงานสุจริตที่ไม่ได้เอาเปรียบใคร แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะอธิบายก็คงเป็นในเรื่องของคู่กรณี ในส่วนที่คนจะมองว่าการที่เรามีปัญหากับเขา จะทำให้ตัวคนกลางรู้สึกอึดอัดด้วยหรือเปล่า ตลอดระยะเวลาที่มีปัญหากับเขาพยายามทำตัวเป็นกลางตลอดคือพูดคุยกับใครก็ได้ แล้วก็ให้ทุกคนรู้สึกสบายใจในการาที่จะทำงานร่วมกับเรา 2 คน หรือรู้จักกับเรา 2 คน ไม่เคยพูด ไม่เคยต้องผลักดันให้ใครเลือก ว่าถ้าชอบเราก็ต้องไม่ชอบเขาแม้กระทั่งเพื่อนฝูงใกล้ตัวเราเอง อยากให้ทุกคนรู้สึกว่าเราเป็นผู้ใหญ่พอที่จะแบ่งแยกได้ว่าคุณชอบเราคุณก็ชอบเขาได้ คุณชอบเขา จริงๆ คุณก็ชอบเราได้ ถ้าเรามีความเป็นผู้ใหญ่มากพอ ตรงนี้คือไม่อยากให้คนกลางรู้สึกอึดอัดนะคะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดมากใดๆ ทั้งสิ้งในการที่จะเรียกงาน หรือไม่เรียก เอาตามความสบายใจของทุกท่านได้เลยค่ะ"
คลิปข่าว
https://www.youtube.com/watch?v=n7lxITveFVI