กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--ตลท.
TFEX เผยความคืบหน้าการรวมศูนย์การซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า TFEX-AFET โดยร่าง พ.ร.บ. ผ่านสนช. แล้ว ทั้งนี้TFEX เตรียมปรับกฎเกณฑ์และระบบงาน และทดสอบระบบกับสมาชิกของ TFEX และสมาชิกใหม่จาก AFET แล้ว เพื่อให้พร้อมซื้อขายสินค้าแรก คือสัญญาซื้อขายล่วงหน้ายางแผ่นรมควันชั้น 3 ในไตรมาส 4 โดยได้เริ่มให้ความรู้แก่ผู้เกี่ยวข้องมาตั้งแต่เดือนกรกฏาคมเพื่อให้ใช้ประโยชน์จากการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าเพิ่มขึ้น
ดร. สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (TFEX) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการรวมศูนย์การซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าว่า ร่าง พ.ร.บ. ยกเลิกพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าได้ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว ในระหว่างนี้ TFEX ได้เตรียมการในส่วนของการปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง การจัดเตรียมระบบงานด้านการซื้อขาย การชำระราคา และการส่งมอบ เพื่อรองรับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า โดยได้ทดสอบความพร้อมด้านระบบงานหรือที่เรียกว่า industry-wide test ร่วมกับบริษัทสมาชิกทั้งที่เป็นสมาชิกเดิม และผู้สมัครสมาชิกใหม่จาก AFET เรียบร้อยแล้ว และเมื่อร่าง พ.ร.บ. และกฎหมายที่เกี่ยวข้องมีผลบังคับใช้ ก็พร้อมเปิดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าได้โดยเร็ว
"สินค้าเกษตรล่วงหน้าสินค้าแรกที่จะซื้อขายใน TFEX คือสัญญาซื้อขายล่วงหน้ายางแผ่นรมควันชั้น 3 หรือ RSS3 Futures ซึ่งเป็นสินค้าที่มีศักยภาพและยังคงมีการซื้อขายและสถานะคงค้างอยู่ใน AFET โดยในช่วงการเปลี่ยนผ่านนั้น สินค้าดังกล่าวจะมีการซื้อขายในทั้ง 2 ตลาดช่วงหนึ่ง ทั้งนี้ TFEX จะร่วมมือกับโบรกเกอร์ใหม่ที่มาจาก AFET ในการให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนเพื่อส่งเสริมให้มีการเปลี่ยนถ่ายให้ราบรื่นและรวดเร็วที่สุด พร้อมทั้งยังเดินหน้าให้ข้อมูลผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ลงทุนและผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากสัญญาซื้อขาย ล่วงหน้ายางแผ่นรมควันชั้น 3 ได้อย่างดี" ดร. สถิตย์กล่าว
นอกจากนี้ TFEX ได้ร่วมมือกับศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุน (TSI) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรด้านสินค้าเกษตรล่วงหน้าที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 200 คน ด้วยการสนับสนุนทุนอบรมเพื่อให้บุคลากรดังกล่าวมีคุณสมบัติครบถ้วนและพร้อมขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. ได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนในด้านผู้ลงทุนและผู้ประกอบการนั้น TFEX จะเน้นส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในสินค้าเกษตรล่วงหน้า ทั้งด้านลักษณะสัญญา และกลยุทธ์การซื้อขาย สร้างความเข้าใจอันดีกับผู้ประกอบการ และชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของการรวมศูนย์ซื้อขายมาไว้เพียงตลาดเดียว โดย TFEX เตรียมจัดสัมมนาให้ความรู้ ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ อีกทั้งยังจะทำการตลาดไปยังผู้ลงทุนต่างประเทศด้วย
"การรวมศูนย์การซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าไว้ที่ TFEX ครั้งนี้ มีความคืบหน้าไปอย่างมากด้วยความสนับสนุนจากกรรมการ ผู้บริหารและบุคลากรของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า และตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย โดย TFEX เชื่อมั่นว่าการรวมศูนย์ในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการซื้อขายล่วงหน้าและลดต้นทุนของผู้ลงทุนในการทำธุรกรรมและนับเป็นก้าวสำคัญของ TFEX ที่จะให้บริการซื้อขายสินค้าแก่ผู้ลงทุนได้ครบวงจร รวมถึงช่วยสนับสนุนให้การซื้อขายมีสภาพคล่องเพิ่มสูงขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องต่อไป" ดร. สถิตย์ กล่าว
สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลโครงการและกิจกรรมต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.TFEX.co.th หรือสอบถาม โทร. 0 2229 2222
"สู่ทศวรรษที่ 5 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อคนไทยเข้าถึงการลงทุนที่มั่งคั่งยั่งยืน"
สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลได้ที่ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ดาราวรรณ มาลีสี 0 2229 2798 /
อารดา กุลตวนิช 0 2229 2796 /
กนกวรรณ เข็มมาลัย 0 2229 2048