กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โชว์ความสำเร็จบรรลุเป้าไตรมาส 3 ด้วยยอดขายเกินกว่า 4,400 ล้านบาท จากเป้าที่วางไว้ พร้อมประกาศความสำเร็จจากการจัดแคมเปญ "ANANDA URBAN PULSE" สามารถกวาดยอดขายในงานรวมกว่า 3,000 ล้านบาท ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี มั่นใจกำลังซื้อคอนโดฯ ติดรถไฟฟ้ายังไปได้ดี ชี้คนรุ่นใหม่ยังต้องการใช้ชีวิตสะดวกสบายใกล้รถไฟฟ้า เชื่อมั่นความแข็งแกร่งของแบรนด์ ไอดีโอ และทำเลที่ดีทีสุด ตอบโจทย์ Best Value for Money ครองใจลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยดีเสมอมา เชื่อว่าสามารถบรรลุเป้าหมายทั้งปีตามที่ตั้งไว้
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า กล่าวว่า กำลังซื้อคอนโดติดรถไฟฟ้ายังไปได้ดีอย่างต่อเนื่อง ได้รับการตอบรับอย่างน่าพอใจจากกลุ่มลูกค้า Gen C ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทให้ได้มาสัมผัสประสบการณ์ชีวิตเมืองรูปแบบใหม่ภายในงาน ฉลองความสำเร็จการจัดงาน "ANANDA URBAN PULSE"ระหว่างวันที่ 12-16 สิงหาคม 2558 ที่รวมสุดยอดคอนโดติดรถไฟฟ้างานใหญ่แห่งปี โดยยอดผู้สนใจร่วมงาน 5 วันกว่า 6,500 คน เชื่อลูกค้ามีความมั่นใจในแบรนด์ ไอดีโอ รวมถึงความแข็งแกร่งทางด้านทำเลที่ดีที่สุด การออกแบบที่ทันสมัย และคุณภาพด้านการก่อสร้างเป็นอย่างดีเหมือนที่ผ่านมา
ซึ่งผลของการจัดแคมเปญใหญ่ ANANDA URBAN PULSE ในครั้งนี้ ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างยอดขายจากคอนโดมิเนียมทั้งหมด รวมกว่า 3,000ล้านบาท ซึ่งประสบความสำเร็จตามเป้าที่ได้วางเอาไว้ และจากยอดขายดังกล่าวสามารถสะท้อนให้เห็นถึงดีมานด์สินค้าคอนโดมิเนียมในทำเลศักยภาพแนวรถไฟฟ้า ตลอดจนความมั่นใจของลูกค้าต่อศักยภาพสินค้าของบริษัทได้เป็นอย่างดี
สำหรับไฮไลต์ภายในงานนอกจากรวบรวมคอนโดมิเนียมของอนันดาฯ กว่า 8 โครงการในทุกแบรนด์ทุกทำเลติดรถไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง ยังมีการเปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด 4 โครงการ บน 4 ทำเลศักยภาพที่ดีที่สุด คิว ชิดลม เพชรบุรี (Q Chidlom - Petchaburi) ไอดีโอ สุขุมวิท 115(IDEO Sukhumvit 115) ไอดีโอ โอทู (IDEO O2) ส่วนโครงการ คิว เทอร์ตี้ วัน (Q Thirty-One)เปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์และข้อมูลก่อนใคร เริ่มเปิดจองครั้งแรกปลายปี 58 ซึ่งทุกโครงการมีความโดดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้งโครงการ ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งการคัดสรรทำเลที่ตั้งโครงการที่ดีที่สุด การออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพทุกตารางนิ้ว การดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
โดยยอดขายรวมของ 3 โครงการใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวและนำมาเปิดขาย สามารถสร้างมูลค่ายอดขายรวมกว่า 60% ของยูนิตที่เปิดขายสำหรับโครงการใหม่(มูลค่าที่เปิดขายรวมทั้งหมด 4,450 ล้านบาท)
โครงการ ไอดีโอ โอ ทู ที่มีส่วนกลางกว่า 10 ไร่ และเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย สามารถสร้างยอดขายได้ 240 ยูนิต (มูลค่า 688 ล้านบาท) หรือกว่า 43% จาก 1 อาคารที่นำมาเปิดขาย ซึ่งประสบความสำเร็จสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับโครงการ ไอดีโอ สุขุมวิท 115 ก็สามารถสร้างยอดขายได้สำเร็จสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้เช่นกัน โดยสร้างยอดขายทั้งสิ้น 342 ยูนิต (มูลค่า 865ล้านบาท) หรือคิดเป็นกว่า 64% จากที่เปิดขายเพียง 50% ของโครงการ
สำหรับโครงการที่ไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองหรือบริเวณส่วนต่อขยาย ยอดขายโดยส่วนใหญ่จะมาจากลูกค้าที่อยู่อาศัยในบริเวณพื้นที่รอบโครงการเป็นหลัก ซึ่งโครงการไอดีโอ โอทู และ โครงการไอดีโอ สุขุมวิท 115 ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้ากลุ่มดังกล่าวดีเกินความคาดหมายที่ตั้งไว้
ส่วนโครงการ คิว ชิดลม-เพชรบุรี เป็นโครงการที่มีความโดดเด่นในเรื่องทำเลที่ตั้ง และนวัตกรรมการออกแบบ ซึ่งเป็นโครงการที่มีความคุ้มค่า สามารถสร้างยอดขายได้ทั้งสิ้น 127 ยูนิต (มูลค่า 1,080 ล้านบาท) หรือคิดเป็น 72% จากที่นำมาเปิดขายเพียง 50% ของทั้งโครงการ ภายในช่วงระยะเวลาของการจัดงานเท่านั้น ซึ่งโดยปกติบริษัทตั้งเป้ายอดขายโครงการไว้ที่ประมาณ 40% ภายในระยะเวลา 3 เดือนแรก
สำหรับโครงการพร้อมอยู่ที่นำมาจัดโปรโมชั่นภายในงานก็ได้รับการตอบรับที่น่าพอใจจากลูกค้าเช่นกัน ซึ่งลูกค้าสามารถเข้าอยู่ฟรีได้นานถึง 760 วันพร้อมได้รับสิทธิพิเศษอื่นๆอีกมากมายภายในงาน
"การจัดงาน ANANDA URBAN PULSE ในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การกระตุ้นการรับรู้และการตัดสินใจของลูกค้าได้อย่างดีในช่วงต้นของครึ่งปีหลัง ซึ่งการจัดงานในช่วง 5 วันที่ผ่านมา บริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นอย่างมาก การประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายมาจากการที่บริษัทสามารถพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านทำเลที่ตั้งที่ดีที่สุด การออกแบบที่ทันสมัย และความคุ้มค่าในการลงทุน ซึ่งผมเชื่อว่าเราจะสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในอนาคตอย่างแน่นอน โดยที่ในไตรมาส 4 บริษัทยังมีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ที่โดดเด่นอีกหลายโครงการ ซึ่งคาดหมายว่าบริษัทจะได้รับการตอบรับที่ดีเหมือนเช่นที่ผ่านมาและสามารถบรรลุผลตามเป้าหมายที่วางไว้อีกครั้ง"นายชานนท์กล่าวทิ้งท้าย