กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--อควา คอร์เปอเรชั่น
อควา คอร์เปอเรชั่น ชี้ 3 ธุรกิจโตเด่นหนุนกกำไร 6 เดือนแรกเกือบ 90% สวนศก.ซบ จ่อขยายลงทุนต่อเนื่องคลังสินค้า-โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์
นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น(AQUA) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2 ปี 2558 มีกำไรสุทธิ 67.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.27% จากช่วงไตรมาส 2 ปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 42.08 ล้านบาท ขณะที่ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 มีกำไรสุทธิ 132.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89.83% จากช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 69.87 ล้านบาท
สำหรับการเติบโตของผลประกอบการดังกล่าวได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากการเติบโตของทั้งบริษัทย่อยและบริษัทร่วมที่ดำเนินธุรกิจใน 3 ธุรกิจหลักที่กำไรสุทธิสามารถเติบโตได้อย่างดี ประกอบด้วยบริษัทย่อยแห่งแรกซึ่งบริษัทถือหุ้นสัดส่วน 74% คือ บริษัท อควาแอด(AA) ซึ่งประกอบธุรกิจสื่อป้ายโฆษณา(Billboard) แม้ภาวะเศรษฐกิจช่วงที่ผ่านมาของปีนี้จะยังชะลอตัวไม่เอื้อต่อการทำธุรกิจสื่อโฆษณาแต่ บริษัท อควาแอด โดยไตรมาส 2ปี 2558 มีกำไรสุทธิ 16.59 ล้านบาทยังมีการเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 6.35 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทย่อยแห่งที่ 2ซึ่งบริษัทถือหุ้นสัดส่วน 69% คือ บริษัทไทย คอนซูเมอร์ ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์(TCDC) ประกอบธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าและบริการกับลูกค้ารายใหญ่รายเดียว โดยมีพื้นที่เช่า แบ่งเป็น 2 อาคาร รวมพื้นที่ 108,800 ตารางเมตร ภายใต้สัญญาเช่า 10 ปีจึงเป็นบริษัทที่มีรายได้มั่นคงสูง โดยไตรมาสปี 2ปี 2558 มีกำไรสุทธิ 36.52 ล้านบาท มีการเติบโตจากไตรมาส 2 ปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิเพียง 3.58 ล้านบาท
นอกจากนี้กลุ่มอความีแผนขยายการลงทุนในธุรกิจคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 100,000 แสนตารางเมตร ภายในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
สำหรับบริษัทร่วมซึ่งบริษัทถือหุ้นสัดส่วน 38.4% คือ บริษัท โรงพิมพ์ ตะวันออก (EPCO) ประกอบธุรกิจโรงพิมพ์ครบวงจร โดยในปี 2555 ได้ขยายไปในธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ภายใต้ บริษัท บ่อพลอย ปัจจุบันสามารถจ่ายไฟฟ้าได้แล้วขนาดกำลังผลิตรวม 16.5 เมกะวัตต์ โดยในไตรมาส 2 ปี 2558 EPCO มีกำไรสุทธิ 74.62 ล้านบาท เพิ่มจากไตรมาส 2 ปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 71.18 ล้านบาท
ขณะที่จะเห็นได้ว่าสัดส่วนรายได้ของ EPCO จากการขายไฟฟ้ามีสัดส่วนเพิ่มขึ้นโดยลำดับ พร้อมทั้งมีแผนที่ขยายธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง ทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้บริษัท บ่อพลอยซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ EPCO ถือหุ้นสัดส่วน 100%
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าแม้ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวไม่ได้ส่งผลกระทบให้ผลประกอบการของบริษัทชะลอตัวตามไปด้วยสะท้อนจากทั้ง 3 ธุรกิจหลักของบริษัที่สามารถสร้างกำไรสุทธิที่ยังเติบโตได้ด้วยดี โดยมาจากแผนงานและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของคณะผู้บริหารที่ได้วางไว้ ดังนั้นจึงมั่นใจว่าผลการดำเนินในทั้งปี 2558 จะเติบโตได้ต่อเนื่อง พร้อมทั้งสามารถรักษาการเติบโตต่อเนื่องได้ใยระยะยาวตามแผนงานของบริษัทที่จะขยายการลงทุนต่อเนื่องในอนาคตเพื่อการเติบโตให้กับบริษัท และผลตอบแทนที่ดีให้บผู้ถือหุ้นด้วย
"เศรษฐกิจของไทยที่ชะลอตัวในปีนี้ไม่ได้กระทบบริษัทอย่างมีนัยสำคัญสะท้อนจากไตรมาส 2 ที่กำไรบริษัทมีอัตราการเติบโตได้มากกว่าการยายตัวของจีดีพีจากโครงสร้างธุรกิจที่กระจายดีใน 3 ธุรกิจและสามารถเติบได้หมดทุกธุรกิจ และมีแผนขยายการลงทุนต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโต" นายธวัชไชย กล่าว