กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--Jee PR
เจาะใจตัวแทนเซียนเกมจาก “นิสสัน จีที อคาเดมี” ซีซั่นแรก บอกเล่าประสบการณ์พลิกชีวิตส่งต่อความฝันให้เกมเมอร์รุ่นหลัง ปูความพร้อม สู่ค่ายปั้นนักแข่งที่สนามซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ ที่มาพร้อมโอกาสพลิกชีวิตพิชิตฝัน สู่เส้นทางของนักแข่งรถมืออาชีพ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองให้ไม่เหมือนเดิมอีกตลอดกาล
ในปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) ได้เดินหน้าทำทำโครงการนิสสัน จีที อคาเดมีในประเทศไทยต่อเนื่อง หลังจากปี 2557 ประสบความสำเร็จ ในการนำคนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกมซิมูเลเตอร์รถแข่ง เข้าสู่สนามแข่งรถจริง ทำให้ 5 หนุ่มไทย คน ที่ต่างชอบการเล่นเกม เป็นชีวิตจิตใจ ได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ล้ำค่า ในสุดยอดค่ายปั้นนักแข่งรถ ของโครงการนิสสัน จีที อคาเดมี ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกมีประเทศต่างๆ เข้าร่วมถึง 28 ประเทศ
มร.คะซุทากะ นัมบุ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โครงการนิสสันจีที อคาเดมี เป็นหนึ่งในกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตของนิสสัน ซึ่งเริ่มที่ยุโรบ ในปี 2551 เพื่อสานฝันให้คนรุ่นใหม่ที่อยากเป็นนักแข่งได้มีโอกาสทำฝันให้สำเร็จ โดยหลายปีมานี้พิสูจน์แล้วว่า เราสามารถเชื่อมโลกเสมือนจริง สู่โลกของความเป็นจริงได้ ซึ่งตลอด 8 ปีของโครงการ เราสามารถปั้นสุดยอดเกมเกมอร์ ที่มีความฝัน และมีการพัฒนาตนเองเสมอ ให้กลายเป็นนักแข่งรถที่ความสามารถยอดเยี่ยมได้ เช่น ลูคัส ออร์โดเนซ แชมป์จีทีอคาเดมี ปีแรกของยุโรป ที่กลายเป็นนักแข่งรถระดับโลกของทีมนิสโม และคว้าแชมป์มาแล้วหลายการ รวมถึง สุดยอดเกมเมอร์คนไทย ฐนโรจน์ ธนาสิทธิ์นิธิเกตุ แชมป์นิสสันจีทีอเคาเดมีปี 2558 ที่ทำผลงานขับแข่งในรายการไมคราคัพที่ประเทศแคนาดาได้อย่างเยี่ยมยอด โดยมีคะแนนรวมนำเป็นอันดับ 1
สำหรับนิสสันจีที อคาเดมี ซีซั่น 2 ซึ่งหลังจากมีการจัดการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ อย่างเข้มข้น ทั้งการ ทดสอบความอึด ความแข็งแรง ของร่างกาย ความสามารถในการควบคุมรถ ไหวพริบในการสื่อสาร และ การทำความเร็วบนเครื่องซิมูเลเตอร์ ก็ ได้ 6 สุดยอดเกมเมอร์ ที่ได้สิทธิ์เดินทางไปเข้าค่ายสุดยอดปั้นนักแข่ง ที่สนามซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ คือ 1.ณัฐยศ ศิริกายะ 2.ธนินท์รัฐ อธิรัฐภูวภัทร์ 3.เพียรพัฒน์ รณเรืองฤทธิ์ 4.พสวัต ลัภกิตโร 5.อรวัต ตันติเวชกุล และ 6.ภาณุวิทย์ ธำรงโชติ อย่างไรก็ตามในตอนท้ายก่อนการเดินทางจะเริ่มต้นขึ้น อรวัต ซึ่งบาดเจ็บที่หัวเข่า ได้สละสิทธิ์ ทำให้ ณัฐนันท์ คฤโมษ ได้เป็น 1 ใน6 สุดยอดเกมเมอร์ ที่จะได้ไปต่อที่ประเทศอังกฤษ เพื่อเข้าค่ายฝึกและลงชิงชัยชิงแชมป์นิสสันจีทีอคาเดมี ในกลุ่มเอเชียในช่วงเดือนสิงหาคม โดยมีคู่แข่งอีก 4 ประเทศ ประกอบด้วย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินเดีย และอินโดนีเซีย
อย่างไรก็ตามไม่ว่าผลการเข้าค่ายและลงแข่งขันนิสสันจีที อเคาเดมีจะเป็นอย่างไร แต่ สำหรับ 5 คนแรก ที่ได้เคยไปเข้าค่ายสุดยอดปั้นนักแข่งนิสสันจีทีอคาเดมี ต่างบอกเป็นเสียงเดียวว่า เพียงแค่ได้ไปก็ถือเป็นสุดยอดโอกาสแล้ว เพราะหลังจากกลับมา แม้ไม่สามารถพลิกชีวิตเป็นนักแข่งรถกับนิสสัน มอเตอร์สปอร์ต ได้ แต่ก็ได้ประสบการณ์ที่เกินคุ้มมากทีเดียว
เริ่มจาก “เอ็ม-ศักเกษม เจริญ” ชายหนุ่มวัย 28 ปี ผู้ที่แม้จะไม่สามารถคว้าชัยชนะกลับมาที่ประเทศไทยได้ แต่เขาก็ไม่ได้ผิดหวังหรือเสียใจถึงขนาดต้องล้มเลิกความใฝ่ฝัน ในทางตรงข้ามมันกลับผลักดันให้เขากล้าตัดสินใจที่จะมุ่งสู่เส้นทางที่ตัวเองเลือกแล้วอย่างจริงจัง
“ผมไม่ได้กลับมามือเปล่า เพราะสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดคือ ด้านความคิด จากเมื่อก่อนอะไรที่มันยากเราจะไม่มั่นใจ แต่พอกลับมาก็มีความกล้าที่จะทำมากขึ้น ถ้ามีความพยายาม ความฝันต่างๆ มันไม่ไกลเกินเอื้อมครับ” เอ็ม บอกถึงจุดเริ่มต้นของการพลิกชีวิตต่อว่า
“ที่บ้านผมทำขนมเปี๊ยะ หลังจากกลับมาผมตัดสินใจทำธุรกิจของตัวเอง โดยแยกทำอีกแบรนด์หนึ่ง แต่ขนมยังเป็นลักษณะใกล้เคียงกัน ถือว่าขยายไลน์ไปอีกกลุ่ม และพอทำสักพักเก็บหอมรอมริบได้ เหมือนความฝันผมยังค้างคา ยังคิดหาวิธีที่จะได้เข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตอยู่ตลอด จนตอนนี้เก็บเงินได้พอสมควรแล้ว จึงซื้อรถมาคันหนึ่งเพื่อเอามาลงแข่งโดยเฉพาะ”
นอกจากหนทางที่นักซิ่งเจ้าของธุรกิจขนมเลือกสร้างเองแล้ว เขายังเผยต่อว่า ล่าสุดมีอีกช่องทางหนึ่งที่มีคนเห็นผลงานจากประสบการณ์ในเรซแคมป์ สำหรับโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมของมิชลินเพื่อไปทดสอบยางในสนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศมาเลเซีย ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้อีกด้วย
ขณะที่ “อั้ม-ชลธวัช มีภาษณี” นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 อีกหนึ่งตัวแทนจากปีก่อน ผู้หลงใหลในกีฬาความเร็วเช่นกัน เล่าว่า เขามีความสนใจเกี่ยวกับวงการยานยนต์มาตั้งแต่เด็กแล้ว เวลาไปตามงานมอเตอร์โชว์ก็ชอบไปตามเก็บโบว์ชัวร์มาอ่านและสะสม ซึ่งการได้ไปฝึกวิชาการขับขี่ในสนามแข่งระดับโลกที่ประเทศอังกฤษ มันมาช่วยเติมเต็มสิ่งที่เขากำลังต้องการได้เป็นอย่างดี
“กลับมาได้เข้าฝึกงานกับพี่จิมมี่ที่เฮดไลท์แม็กครับ เพราะปีที่แล้วพี่เขาไปร่วมทำข่าวที่นั่นด้วย ทำให้รู้จักกัน ตอนนี้ได้มาทำสื่อในวงการยานยนต์ จึงได้ใช้ทั้งสิ่งที่เรียนมาและประสบการณ์ที่ล้ำค่าจากเรซแคมป์ โดยเฉพาะความรู้ต่างๆ มันเข้ามาเสริมทักษะในด้านการเทสรถ เพราะตอนนี้ผมจำเป็นต้องใช้เพื่อให้รู้ถึงศักยภาพของรถที่นำมาทดสอบพอสมควร ถือว่าเป้าหมายและชีวิตของผมมาถูกทางแล้วครับ”
อั้มฝากถึงสิ่งที่ตัวแทนรุ่นต่อไปต้องเตรียมตัวไว้ว่า ส่วนสำคัญที่สุดและเน้นให้หนัก คือ เรื่องทักษะการขับรถเหมือนด่านทดสอบในรอบสุดท้ายที่สนามปทุมธานี สปีดเวย์ รวมถึงเนื่องจากสภาพอากาศที่นั่นแตกต่างจากบ้านเราพอสมควร ดังนั้นด้านร่างกายจึงต้องฟิตพร้อมให้มีความสมบูรณ์ที่สุด
ตามด้วย “อีฟ-จักรพันธ์ ด๊ะวี” หลังตกรอบกลับมาจากซีซั่นแรก การดำเนินชีวิตของเขายังตื่นเช้าขึ้นมาช่วยงานธุรกิจที่บ้านปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง ถึงอย่างไรประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้เข้าร่วมค่ายปั้นนักแข่งยังคงอยู่ในความประทับใจที่ดีของเขาสมอมา
“กิจกรรมปั้นเซียนเกมสู่นักแข่งอาชีพให้อะไรกับผมเยอะมาก อย่างการได้สัมผัสรถนิสสันระดับโลกหลายๆ รุ่น ได้ไปเหยียบและวิ่งจริงในสนามแข่งขันระดับฟอร์มูล่าวัน มันเป็นภาพความทรงจำที่ผมยังรู้สึกได้ตลอดเวลา แม้ในรายการนี้ผมจะไม่ประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้ แต่ความฝันที่จะเป็นนักแข่งของผมมันถูกเติมเต็มหลังจากกลับมา” อีฟ เริ่มเล่าด้วยโทนเสียงปกติก่อนที่จะเพิ่มความหนักแน่นขึ้นว่า
“ตอนนี้ผมสานฝันตัวเองต่อด้วยการซื้อรถแข่งมาคันหนึ่ง เพื่อลงแข่งในรายการไทยแลนด์ซูเปอร์ซีรีส์ และทรูวิชั่น ซูเปอร์ วัน เรซ โดยมีทีมแข่งให้โอกาสผม เพราะเขารู้จักผมผ่านนิสสัน จีที อคาเดมี หลังจากที่ไปมาแล้ว เขาเห็นว่าเรามีความสามารถจึงติดต่อเข้ามา ส่วนผลงานที่ผ่านมา จบไปแล้วสองสนาม ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ ติดท้อปไฟว์ทั้งสองรายการครับ”
“ฝากขอบคุณทางนิสสันอีกครั้ง ถ้าไม่ได้ไปอังกฤษ ชีวิตผมคงมาไม่ถึงจุดนี้ เพราะเราเป็นใครมาจากไหนไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครกล้ามาสนับสนุน สำหรับโครงการดีๆ แบบนี้ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนพลิกชีวิตของผมให้ไม่เหมือนเดิมไปตลอดกาลครับ” เกมเมอร์ที่ผันตัวเองเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตได้สำเร็จสรุปถึงความภูมิใจ
ขยับมาที่ “นุ๊ป-เกรียงไกร โชติมา” สำหรับตำแหน่งหน้าที่การงานในร้านจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ที่เคยทำ ทั้งก่อนและหลังไปเยือนซิลเวอร์สโตนยังเหมือนเดิมเช่นกัน ทว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือโอกาสใหม่ที่เข้ามาในบทบาทนักแข่งรถที่เขาเฝ้าฝันถึงมาโดยตลอด
“พอดีเพื่อนๆ ของผม เขาอยากทำรถแข่ง อยากทำทีมแข่ง แต่ยังหาตัวขับไม่ได้ และพอเรากลับมา เขาเห็นว่าเราน่าจะพอมีความสามารถอยู่บ้างก็เลยสนับสนุนให้ลองดู ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่เราฝันไว้อยู่แล้วกับการเป็นนักแข่ง ทุกอย่างจึงลงตัว ส่วนผลงานตอนนี้ถือว่าไม่ขี้เหร่ ลงแข่งรายการของทรูวิชั่น รุ่น 1500 โมดิฟาย คะแนนสะสมรวมอยู่ในอันดับที่สองครับ” นักซิ่งที่เคยเป็นเซียนเกมในจอตู้มาก่อนเล่าเสริม
“ถ้าไม่ได้ไปปีที่แล้ว ชีวิตผมคงมาถึงจุดนี้เหมือนกัน แต่อาจจะไม่มีเงินทุนมาทำรถเท่าตอนนี้ เพราะคงไม่มีใครกล้าสนับสนุน สำหรับสิ่งที่ได้เรียนรู้กลับมาและสำคัญจริงๆ คือ เรื่องของวินัยนักแข่งที่หลายคนมองข้าม อย่างสภาพร่างกาย การพักผ่อน มันสำคัญมากๆ สิ่งนี้ผมได้เรียนรู้ว่าต้องเน้นไม่น้อยไปกว่าทักษะการขับขี่เลยทีเดียว”
สำหรับความผิดพลาดของนุ๊ปในปีก่อนและเขาอยากฝากให้เป็นบทเรียนถึงรุ่นต่อไปในปีนี้ว่า “ด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษต้องเตรียมตัวให้พร้อม และควรระลึกไว้เสมอว่า ถึงตรงนั้นจะไม่มีคนมาช่วยแปล หากเข้าใจไม่ครบถ้วน โอกาสที่จะเกิดความคลาดเคลื่อนก็มีได้ และอีกอย่าง คือ อย่าเพิ่งคิดว่าคุณได้เป็นตัวแทนวันนี้แล้วคุณชนะ จุดนี้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น บททดสอบที่แท้จริงที่คุณจะได้เจอในเรซแคมป์ มันมีอะไรที่คาดไม่ถึงและโหดกว่านี้อีกเยอะ ขอให้ทุกคนโชคดีครับ”
ปิดท้ายที่ “เบ๊บ-ฐนโรจน์ ธนาสิทธิ์นิธิเกตุ” แชมป์นิสสัน จีที อคาเดมี คนแรกของประเทศไทยปี 2014 ซึ่งปัจจุบันลงแข่งในรายการไมคราคัพที่ประเทศแคนาดา และเขาสามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงทักษะที่พัฒนาขึ้นอย่างเยี่ยมยอดจากประสบการณ์ในค่ายปั้นนักแข่งที่อังกฤษ เพราะไม่เพียงคว้าชัยในสองสนามแรก อีกทั้งยังได้รับคำชมถึงความมีน้ำใจนักกีฬา และการเป็นนักแข่งที่มีวินัย หมั่นฟิตซ้อมมากคนหนึ่งด้วย
“ครั้งที่แล้วแม้จะไม่ได้แชมป์ในรอบตัดสิน แต่ด้วยผลงานที่ผมแสดงให้คณะกรรมการและผู้บริหารนิสสันให้เห็น จึงเป็นที่มาของการได้รับโอกาสในการพลิกชีวิตสู่เส้นทางนักแข่งอีกครั้งครับ” นักขับวัย 19 ปี หนึ่งเดียวของไทยในศึกชิงเจ้าความเร็วที่แคนาดาเล่าต่อว่า
“โอกาสทำตามความฝันอยู่ต่อหน้าแล้ว ผมไม่อยากพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง ซึ่งก่อนเดินทางไปแข่งผมมีการเตรียมตัวทั้งด้านร่างกาย เข้าฟิตเนส ว่ายน้ำ วิ่ง ส่วนด้านการสื่อสารผมมีครูสอนภาษาอังกฤษมาติวให้ถึงที่บ้าน เพราะรู้ว่าเมื่อไปถึงเราต้องแข่งขันกับระดับมืออาชีพ ทุกอย่างจึงต้องเต็มที่ครับ ซึ่งผลการแข่งขันล่าสุดผมภูมิใจกับผลที่ดีขึ้นๆ อันเกิดจากความจริงจัง หมั่นฝึกซ้อม ซึ่งสำหรับรุ่นต่อไปคนที่จะเข้าร่วมรายการ หรือลงแข่ง ผมอยากให้พวกเขา จริงจัง มีวินัยกับการฝึกซ้อม ยิ่งซ้อมเยอะเราก็จะเก่งขึ้น ทำได้ดีขึ้น มั่นใจขึ้น โดยเฉพาะร่างกาย เราต้องฟิตตลอด และเมื่อถึงวันแข่งผมอยากให้เขาคิดที่จะคว้าชัยให้ได้ อย่าคิดเพียงได้แข่ง เท่านั้นเท่านี้ก็พอ เมื่อสัญญาณสตาร์เริ่ม ก็ต้องไปด้วยใจที่จะคว้าโอกาสของเรามาให้ได้”
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวประสบการณ์และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ซึ่งสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากเดินทางไล่ตามความฝันอยากเป็นนักแข่ง ประสบการณ์ที่ ทั้ง 6 เซียนเกม ส่งมา น่าจะจุดประกายสานฝัน เพื่อเตรียมพร้อมเป็น สุดยอดเซียนเกมรานต่อไปที่จะได้เข้า นิสสัน จีทีอคาเดมี เพื่อคว้าโอกาสพลิชีวิต พิชิตฝันสู่การเป็นนักขับรถแข่งระดับโลก สร้างชื่อให้กับประเทศไทยให้ได้