กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--ปตท.
ปริมาณขายโดยรวมเติบโตต่อเนื่อง แต่ราคาเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ลดลงตามราคาน้ำมันดิบที่ลดลงร้อยละ 46.2 เมื่อเทียบกับ 105.3 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในครึ่งแรกของ ปี 2557 ส่งผลให้ครึ่งแรกของ ปี 2558 ปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 46,330 ล้านบาท ลดลง 11,565 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 20 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 ว่า ปตท. และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายจำนวน 1,052,261 ล้านบาท ลดลง 292,501 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.8 มาจากปัจจัยทางด้านราคาเป็นหลักแม้ปริมาณขายโดยรวมยังเติบโตต่อเนื่องโดยราคาเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ลดลงตามราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยครึ่งปีแรกที่ลดลงอยู่ที่ระดับ 56.6 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ในขณะที่ ปตท. และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 46,330 ล้านบาท ลดลง ร้อยละ 20 จาก 57,895 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 และมีกำไรก่อน ดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 159,350 ล้านบาท ลดลง 3,432 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปีก่อน
นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน ปตท. กล่าวว่า ถึงแม้ผลการดำเนินงานในภาพรวมจะอ่อนตัวลง แต่โครงสร้างธุรกิจที่หลากหลายและฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนและทำให้ ปตท.มั่นใจในผลการดำเนินงานในระยะยาว โดยจะเห็นได้จากการดำเนินงานครึ่งปีแรกที่ยังแข็งแกร่งของ บริษัทในเครือกลุ่มธุรกิจการกลั่นและปิโตรเคมีที่มีผลการดำเนินงานปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าการกลั่น (GRM) ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งต้นทุนน้ำมันดิบและเชื้อเพลิงในการผลิตปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ประกอบกับในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 นี้ โรงกลั่นน้ำมันในกลุ่ม ปตท. สามารถดำเนินการผลิตในอัตราที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ตามแผนงาน (Major Turnaround) ส่งผลให้ผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี 2558ของ ปตท. และบริษัทย่อยมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าจำนวน 4,324 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 53.7 จาก 2,813 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557