กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--กรมสุขภาพจิต
น.พ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึง สถานการณ์เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นบริเวณสี่แยกราชประสงค์เมื่อวานที่ผ่านมา ว่า ตอนนี้มีข้อมูลข่าวสาร ภาพ หรือข่าวลือต่างๆ มากมาย เผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะทางอินเทอร์เน็ต ที่อาจสร้างความหวาดระแวงและวิตกกังวลให้กับประชาชนถึงความไม่ปลอดภัย ทำให้ผู้ที่รับหรือติดตามข่าวสารดังกล่าว เกิดความเข้าใจผิด และเกิดความเครียด วิตกกังวลขึ้นได้ ดังนั้น เพื่อลดความวิตกกังวลที่เกิดขึ้น จึงขอแนะนำว่า ให้ตั้งสติและระมัดระวังเป็นพิเศษในการติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆ โดยเฉพาะ ทางโซเชียลมีเดีย ซึ่ง ต้องตรวจสอบจากหลายๆ ที่ และต้องไม่เชื่อในทันที เพราะไม่มีแหล่งข้อมูลอ้างอิงที่ชัดเจน โดยผู้รับข้อมูลข่าวสารควรใช้วิจารณญาณ เชื่อโดยมีพื้นฐานอยู่บนเหตุผล ข้อเท็จจริง ดูความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ มองสถานการณ์ให้รอบด้าน อย่าตื่นตระหนก โดยต้องวิเคราะห์ให้ดี เพราะข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏนั้น ย่อมมีทั้งข่าวจริง ข่าวลือ ข่าวปล่อย เราจึงต้องค่อยๆ กลั่นกรอง อย่ารีบร้อน เพราะจะยิ่งทำให้เกิดความเครียด และวิตกกังวลมากขึ้น ควรรับข้อมูลจากคนที่เชื่อถือได้ หรืออาจตรวจสอบข้อมูลกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อคลายความกังวล ตลอดจนรวมกลุ่มกันเพื่อเฝ้าระวังและกลั่นกรองข้อมูลข่าวสารต่างๆ เพื่อให้เกิดการรับรู้และเข้าใจข้อมูลข่าวสารได้อย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ส่วนกรณีของผู้ที่จะแชร์หรือเผยแพร่ข้อมูลต่อนั้น จำเป็นต้องใช้ดุลยพินิจให้มาก ต้องคำนึงถึงความถูกต้องของเนื้อหา และต้องคำนึงด้วยว่าข้อมูลที่จะส่งต่อไปนั้นเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมหรือไม่ ที่สำคัญ ต้องพึงเคารพสิทธิผู้ที่ได้รับผลกระทบ ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บจากสถานการณ์ ด้วยการไม่แชร์รูป ไม่แชร์ข่าวลือที่ไม่รู้ที่มา หรือแชร์ภาพความสูญเสียซ้ำไปซ้ำมา เพราะจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ให้แย่ลงไปอีก
อย่างไรก็ตาม ประชาชนไม่ควรรับข้อมูลข่าวสารมากเกินไปจนเกิดความเครียด อาการที่สังเกตพบ เช่น นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ ปั่นป่วนมวนท้อง วิตกกังวล ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการรับข้อมูลข่าวสารและภาพความสูญเสียที่มากเกินไป หันไปทำกิจกรรมอื่นๆ เผื่อผ่อนคลายแทน โดยวิธีง่ายๆ อาจเริ่มจากการตั้งสติ และกำหนดลมหายใจ หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกช้าๆ ทำต่อเนื่องกันไปจนรู้สึกผ่อนคลาย รวมทั้ง นอนหลับอย่างเพียงพอ หรืออาจจะพูดคุยกับคนใกล้ชิด เป็นต้น ทั้งนี้ สามารถขอรับบริการปรึกษาได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง หรือขอรับบริการจากหน่วยงานสังกัดกรมสุขภาพจิตได้ทุกแห่งทั่วประเทศในวันและเวลาราชการ และนอกจากนี้ กรมสุขภาพจิตได้เตรียมส่งทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team : MCATT) เพื่อให้การดูแลประเมินผลกระทบและเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที ป้องกันการเกิดบาดแผลทางใจในระยะยาว โดยเฉพาะผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้สูญเสียบุคคลในครอบครัว ซึ่งจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว