กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
การส่งเสริมการเรียนรู้และความเข้าใจในวิชาการสหกรณ์แก่เด็กและเยาวชน ตามพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ให้จัดการสอนวิชาการสหกรณ์โดยเริ่มต้นในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ตั้งแต่ปี 2534 นับแต่นั้นมา การส่งเสริมวิธีการสหกรณ์ทั้งวิชาการและปฏิบัติการได้แพร่หลายไปสู่นักเรียนในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีและขยายผลสู่นักเรียนทั่วประเทศ
สำหรับปี 2558 ซึ่งเป็นโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา กรมส่งเสริมสหกรณ์กิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีพระราชดำริการจัดการเรียนรู้สหกรณ์ในสถานศึกษา จึงได้จัดทำ “โครงการประเมินโรงเรียนจัดการเรียนรู้การสหกรณ์รางวัลพระราชทาน” โดยคัดเลือกโรงเรียนการจัดการเรียนรู้กากรสหกรณ์ดีเด่น เข้าสู่การประเมินอย่างเข้มข้น เพื่อค้นหาโรงเรียนเข้ารับรางวัลพระราชทาน อันเป็นการประกาศผลต่อสาธารณะชนในการขยายผล จนสามารถพัฒนาความร่วมมือ ร่วมแรง และร่วมใจในเยาวชนไทย ครู และผู้ปกครอง ตลอดจนประชาชนในท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์ให้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เศรษฐกิจ สังคมของประเทศตามแนวพระราชดำริ
คุณสมบัติของโรงเรียนมีสิทธิ์เข้ารับการประเมินและคัดเลือกเพื่อรับรางวัลพระราชทาน จะต้องเป็นโรงเรียนที่ดำเนินการจัดการเรียนรู้การสหกรณ์ในโรงเรียนที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพในด้านคุณภาพนักเรียน ด้านงานวิชาการและกิจกรรมสหกรณ์นักเรียน ด้านการบริหารการจัดการ และด้านความสำเร็จ/ความดีเด่นของการจัดการเรียนรู้การสหกรณ์
ขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการประเมินโรงเรียนการจัดการเรียนรู้การสหกรณ์ดีเด่นเพื่อรับรางวัลพระราชทาน เพื่อลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนวิชาสหกรณ์และกิจกรรมเกี่ยวกับสหกรณ์นักเรียนเพื่อพิจารณาให้คะแนน ก่อนจะนำมาตัดสินให้รางวัลโรงเรียนที่มีการจัดการเรียนวิชาสหกรณ์ได้เข้มข้นและสร้างความเข้าใจแก่นักเรียนได้อย่างแท้จริง
นายกิตติพงษ์ โตโพธิ์ไทย ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วยนางรัชนีพร พึงประสพ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 นายพิษณุ คล้ายเจตน์ดี สหกรณ์จังหวัดนครนายกและนายเจริญ ทองหลอม สหกรณ์จังหวัดระนอง ในฐานะคณะอนุกรรมการประเมินโรงเรียนในโรงเรียนกลุ่มที่ 3 เพื่อประเมินโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และโรงเรียนในสังกัดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมการเรียนการสอนวิชาสหกรณ์และกิจกรรมสหกรณ์นักเรียนของโรงเรียนบ้านในวง อำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง และโรงเรียนบ้านทุ่งรักชัยพัฒน์ อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา
สำหรับกิจกรรมสหกรณ์นักเรียน โรงเรียนบ้านในวง อำละอุ่น จังหวัดระนอง จะมีคณะกรรมการสหกรณ์โดยนักเรียนคัดเลือกตัวแทนเข้ามาบริหารงานสหกรณ์ของโรงเรียน โดยแบ่งเป็น 2 กิจกรรม ได้แก่ ร้านสหกรณ์ ที่นำสินค้าอุปกรณ์เครื่องเขียนและของใช้ที่จำเป็นมาจำหน่าย และธนาคารโรงเรียนที่รับฝากเงินออมของนักเรียน และ แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ เน้นเรื่องความซี่อสัตย์ เสียสละและพัฒนาตนเอง มีความรับผิดชอบและมีความตระหนักในคุณค่าของการพึ่งตนเอง การพึ่งพาอาศัยกัน และมีจิตสำนึกระเบียบวินัย และการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ เคารพกติกาและยึดหลักประชาธิปไตย
สำหรับการจัดการเรียนรู้การสหกรณ์ในโรงเรียนบ้านทุ่งรักชัยพัฒน์ อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา นั้น พืชผลและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่นักเรียนได้เรียนรู้ในวิชางานฐานจะส่งเข้าระบบสหกรณ์ คือ ส่งขายในโรงเรียนเพื่อนำมาผลิตอาหารกลางวันให้กับนักเรียนและส่วนที่เหลือจะส่งขายในชุมชน โดยให้แม่ค้าในตลาดและผู้ปกครองได้ซื้อกลับบ้าน รายได้เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วทางโรงเรียนจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ทำการซื้อหุ้นเพิ่มให้กับนักเรียน และฝากเข้าระบบเงินออมของสหกรณ์ให้กับนักเรียนทุกๆคนเท่ากันทั้งโรงเรียน
กระบวนการเรียนการสอนวิชาสหกรณ์ในโรงเรียนนั้น จะใช้พื้นที่อาคารของร้านสหกรณ์นักเรียน ซึ่งได้รับงบประมาณจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ในปี 2549 ในการปรับปรุงอาคารสหกรณ์นักเรียนเพื่อใช้เป็นสถานที่ในการฝึกฝนงานด้านสหกรณ์ โดยนักเรียนได้ฝึกการทำบัญชีรายรับรายจ่ายของสหกรณ์ การจัดทำบัญชีรายการสินค้า การจัดทำบัญชีหุ้นสมาชิกนักเรียน การจัดทำบันทึกการออม การจัดหาสินค้ามาจำหน่ายตามความต้องการของสมาชิกและการบันทึกรายงานการประชุม
ทุก ๆ กิจกรรมในสหกรณ์นักเรียน เด็กๆจะได้เรีนยรู้และฝึกทักษะในการลงมือปฏิบัติ เป็นการปลูกจิตสำนึกให้กับนักเรียน และเน้นเรื่องการสร้างระเบียบวินัย ความซื่อสัตย์และความโปร่งใสในการดำเนินงาน และในอนาคตได้วางแผนที่จะให้ระบบสหกรณ์นักเรียนน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการพัฒนาการดำเนินชีวิตของนักเรียนทุกคน สร้างนิสัยประหยัดและอดออมให้นักเรียนได้รู้ถึงคุณค่าของเงินเพื่อเป็นทุนในอนาคต และสามารถนำหลักและวิธีการสหกรณ์ที่ได้จากการเรียนรู้ในโรงเรียนไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้ รวมถึงการนำวิธีการสหกรณ์มาพัฒนาชุมชนและสร้างความสามัคคีระหว่างโรงเรียนและชุมชนร่วมกัน
การตัดสินรางวัลโรงเรียนจัดการเรียนรู้การสหกรณ์ดีเด่น เพื่อรับรางวัลพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แบ่งเป็นโรงเรียนภายใต้โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี (ภายในโครงการ กพด.) โรงเรียนที่ได้รับการประเมินให้ผ่านเกณฑ์ในแต่ละกลุ่มโรงเรียน เป็นลำดับที่ 1 จะได้รับรางวัลพระราชทาน และได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท ลำดับที่ 2 - 4 จะได้รับเกียรติบัตรชมเชยจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ และได้รับเงินรางวัล จำนวน 20,000 บาท 17,000 บาท และ 15,000 บาท ตามลำดับ ประเภทที่ 2 โรงเรียนภายนอกโครงการ กพด. ที่นำแนวพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ของโรงเรียน ตชด. มาขยายผล โรงเรียนที่ได้รับการประเมินให้ผ่านเกณฑ์ เป็นลำดับที่ 1 จะได้รับรางวัลพระราชทาน และได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท ส่วนรางวัลลำดับที่ 2 - 5 จะได้รับเกียรติบัตรชมเชยจาก กรมส่งเสริมสหกรณ์ และได้รับเงินรางวัลจำนวน20,000 บาท 17,000 บาท 15,000 บาท และ 13,000 บาท ตามลำดับ ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลภายในเดือนกันยายน 2558 นี้