กรุงเทพฯ--20 ส.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
ฟิตเนส เฟิรส์ท (ประเทศไทย) ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดฟิตเนสของประเทศไทย ตั้งเป้ายืดความยาวของการเป็นสมาชิกเฉลี่ยมากกว่า 3 ปี ชี้สมาชิกกว่าครึ่งชอบการเข้าร่วมคลาสมากขึ้นกว่าการออกกำลังกายเพียงลำพัง โดยปัจจุบันมีคลาสออกกำลังกายรวมกว่า 18,000 คลาสต่อเดือน พร้อมเปิดแคมเปญ “ฟิตเนส เฟิรส์ท ซูเปอร์สตาร์ ซูเปอร์ ลอนช์ (Fitness First Superstars Super Launch)” เพื่อยกระดับคุณค่าของการเป็นสมาชิกโดยให้สมาชิกได้สัมผัสประสบการณ์การออกกำลังกายที่ผนวกความสนุกสนานแบบเต็มพิกัดและการสร้างผลลัพธ์การออกกำลังกายที่น่าพึงพอใจ ไปกับเทรนเนอร์ระดับซูเปอร์สตาร์กว่า 200 คน ที่ ฟิตเนส เฟิรส์ท คัดสรรมาอย่างเข้มข้นจนสามารถการันตีได้ถึงความมีศักยภาพในระดับท็อปของประเทศไทย ผ่าน 15 โปรแกรมการออกกำลังกาย อาทิ โฟลว์โยคะ (Flow Yoga) มวยไฟท์โปรบายบัวขาว (Muay Fight Pro By Buakaw) และโปรไซคลิ่ง (Procycling) ทั้งนี้ เหล่าเทรนเนอร์ผู้เชี่ยวชาญจะหมุนวนกันสอนคลาสสุดพิเศษให้กับลูกค้าทั้ง 27 คลับทั่วประเทศไทย มุ่งเน้นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับสมาชิก (Active Member) กว่า 75,000 คน และมุ่งหวังให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี ตลอดจนใช้ชีวิตได้เต็มที่กว่าที่เคยเป็น ตามแนวคิด “Together, We Can Go Further”
สำหรับคนรักสุขภาพที่ต้องการขอรับคำปรึกษาด้านการออกกำลังกาย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฟิตเนส เฟิรส์ท (ประเทศไทย) โทรศัพท์ 02-789-9997 และ www.fitnessfirst.co.th
นางอรวรรณ เกลียวปฏินนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ฟิตเนส เฟิรส์ท (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าฟิตเนส เฟิรส์ท (ประเทศไทย) เปิดแคมเปญ “ฟิตเนส เฟิรส์ท ซูเปอร์สตาร์ ซูเปอร์ ลอนช์ (Fitness First Superstars Super Launch)”เพื่อยกระดับคุณค่าของการเป็นสมาชิก ด้วยการเปิดประสบการณ์สุดพิเศษให้สมาชิกได้สัมผัสการออกกำลังกาย ที่ผนวกความสนุกสนานแบบเต็มพิกัดและการสร้างผลลัพธ์การออกกำลังกายที่น่าพึงพอใจ ตลอดจนได้รู้จักกับสุดยอดเทรนเนอร์อย่างหลากหลายจำนวนกว่า 200 คน ที่จะมานำสอนคลาสสุดประทับใจในฐานะเทรนเนอร์ระดับซูเปอร์สตาร์ ซึ่งฟิตเนส เฟิรส์ท คัดสรรมาอย่างเข้มข้นจนสามารถการันตีได้ถึงความมีศักยภาพในระดับท็อปของประเทศไทย ผ่าน 15 โปรแกรมการออกกำลังกาย อาทิ โฟลว์โยคะ (Flow Yoga) มวยไฟท์โปรบายบัวขาว (Muay Fight Pro By Buakaw) และโปรไซคลิ่ง (Procycling) ทั้งนี้ เหล่าเทรนเนอร์ผู้เชี่ยวชาญจะหมุนวนกันสอนคลาสสุดพิเศษให้กับลูกค้าทั้ง 27 คลับทั่วประเทศไทย มุ่งเน้นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับสมาชิก (Active Member)กว่า 75,000 คน และมุ่งหวังให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี ตลอดจนใช้ชีวิตได้เต็มที่กว่าที่เคยเป็น ตามแนวคิด “Together, We Can Go Further”
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ ฟิตเนส เฟิรส์ท ได้ทำการปฏิวัติแนวทางการทำธุรกิจฟิตเนสทั่วโลก โดยเน้นการสร้างแรงจูงใจให้กับสมาชิกมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ด้วยการเพิ่มความหลากหลายของคลาส อุปกรณ์ การปรับรูปแบบคลับ รวมไปถึงขบวนการดูแลสมาชิกโดยเทรนเนอร์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งหมดนี้ทำให้สมาชิกรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและเป็นส่วนหนึ่งของคลับ และก่อให้เกิดเป็นแรงบันดาลใจให้สมาชิกมาออกกำลังกายด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนได้จากปริมาณการเข้าใช้คลับของสมาชิกชาวไทย หากนับตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมามีจำนวนครั้งของการเข้าใช้บริการต่อวันเพิ่มมากขึ้นถึง 6.2% หรือ ประมาณ 1,000 ครั้งต่อวัน มีการเข้ามาใช้บริการของสมาชิกเฉลี่ย 6 ครั้งต่อเดือน และมีความยาวของการเป็นสมาชิกเฉลี่ย 27 เดือน หรือมากกว่า 2 ปี โดยปัจจุบันสมาชิกกว่าครึ่งชอบการเข้าร่วมกิจกรรมหรือคลาสมากขึ้นกว่าการออกกำลังกายเพียงลำพัง ส่งผลให้ ฟิตเนส เฟิรส์ท ปรับเพิ่มจำนวนคลาสขึ้นถึง 67% ต่อวัน จาก 2,580 คลาส เป็น 4,331 คลาสต่อสัปดาห์ หรือรวมกว่า 18,000 คลาสต่อเดือน ตลอดจนตั้งเป้ายืดความยาวของการเป็นสมาชิกเฉลี่ยมากกว่า 36 เดือน หรือ 3 ปี เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดฟิตเนสของประเทศไทย
อย่างไรก็ดี แคมเปญ “ฟิตเนส เฟิรส์ท ซูเปอร์สตาร์ ซูเปอร์ ลอนช์ (Fitness First Superstars Super Launch)” นอกจากจะเป็นการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าและสร้างคุณค่าของการเป็นสมาชิกให้มากขึ้นแล้ว ก็ยังถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การพัฒนาบุคลากรของบริษัทด้วยเช่นกัน โดยที่ผ่านมาทางบริษัทมีโครงการเพื่อการพัฒนาบุคลากรอย่างหลากหลาย อาทิ โครงการนักศึกษาฝึกงานที่พร้อมรับเข้าทำงานจริงหากผ่านการทดสอบ การพัฒนาและเรียนรู้ข้ามสายงานเพื่อการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารสาขา ซึ่งส่วนหนึ่งในความสำเร็จของการดำเนินโครงการดังกล่าวที่ผ่านมานั้น จะเห็นได้จากอัตราหมุนเวียนของการเข้าออกของพนักงาน (Tureover Rate) ต่ำกว่า 1% ซึ่งถือเป็นอัตราที่ต่ำมากสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีจำนวนพนักงานมากกว่า 1,500 คน นอกจากนี้ บริษัทก็ยังมีการจัดอบรมหรือเทรนนิ่งอย่างต่อเนื่องในทุกๆ วัน โดยเทรนเนอร์ทุกคนจะมีชั่วโมงการอบรม (Training-hour) คิดเป็น 10% ของชั่วโมงการทำงาน (Man-hour) ซึ่งทำให้เทรนเนอร์ของ ฟิตเนส เฟิรส์ท ได้มีการพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา สามารถสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกว่าเทรนเนอร์มีความรู้ความสามารถ และดูแลสมาชิกให้บรรลุเป้าหมายที่ตนเองตั้งใจได้ อันเป็นกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจของ ฟิตเนส เฟิรส์ท มาเป็นระยะเวลากว่า 14 ปี นางอรวรรณ กล่าวสรุป
ทั้งนี้ สำหรับคนรักสุขภาพที่ต้องการขอรับคำปรึกษาด้านการออกกำลังกาย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฟิตเนส เฟิรส์ท (ประเทศไทย) โทรศัพท์ 02-789-9997 และ www.fitnessfirst.co.th