กรุงเทพฯ--21 ส.ค.--สำนักงาน ป.ป.ช.
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ชี้แจงผลการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีกล่าวหานางสาวภัคภร เรขะกมลพร หรือประไพศรี เผ่าพันธุ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองคลัง และรองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กับพวก รวม ๓๘ คน ทุจริตในการดำเนินโครงการจัดจ้างปรับปรุงซ่อมแซมสระน้ำ ถนน อาคารสถานที่ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ระหว่างปีงบประมาณ 2543-2545 จำนวน 201 งานจ้าง หรือ 201 สัญญา เป็นเงินทั้งสิ้น๓๑๑,๓๑๗,๐๘๖.๑๑ บาท ซึ่งมีศาสตราจารย์ ดร. ภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน ว่าจากการไต่สวนข้อเท็จจริง ปรากฏว่านางสาวภัคภร เรขะกมลพร หรือประไพศรี เผ่าพันธุ์ ได้ดำเนินโครงการจัดจ้างปรับปรุงซ่อมแซมสระน้ำ ถนน อาคารสถานที่ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จำนวน 201 สัญญาดังกล่าว โดยมีพฤติการณ์ช่วยเหลือเอกชนรายใดรายหนึ่ง ให้เป็นคู่สัญญารับจ้างทำงานปรับปรุงซ่อมแซมอาคารสถานที่ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ด้วยการอนุมัติให้จัดจ้าง และหรือสั่งจ้าง โดยวิธีการแบ่งจ้างโดยลดวงเงินที่จะจ้างในครั้งเดียวกัน เพื่อให้วงเงินต่ำกว่าที่จะจ้างโดยวิธีประกวดราคา เป็นโดยวิธีสอบราคา และเพื่อให้อำนาจสั่งจ้างเปลี่ยนแปลงไป จากที่เป็นอำนาจของอธิบดี ให้เป็นอำนาจของตนเองหรือของผู้อำนวยการกองคลังแล้วแต่กรณี โดยไม่มีการดำเนินการสอบราคาและแข่งขันเสนอราคากันจริง ทำเอกสารการดำเนินการจัดจ้างโดยวิธีสอบราคาเป็นเท็จ ปลอมและใช้เอกสารใบเสนอราคาของเอกชนรายอื่นมาเป็นหลักฐานแข่งขันเสนอราคากับเอกชนรายที่ได้เลือกให้เป็นผู้รับจ้างทำงานนั้น
ส่วนข้าราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อีกจำนวน ๑๖ คน ที่ร่วมกระทำผิด มีพฤติการณ์ช่วยเหลือเอกชนรายใดรายหนึ่ง ให้เป็นคู่สัญญารับจ้างทำงานปรับปรุงซ่อมแซมอาคารสถานที่ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยในกรณีที่ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการเปิดซองสอบราคา ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กรรมการเปิดซองสอบราคาและทำรายงานผลการเปิดซองสอบราคาเป็นเท็จ หรือในกรณีที่ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจการจ้าง ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กรรมการตรวจการจ้างและทำหลักฐานการตรวจรับการจ้างเป็นเท็จ หรือทำหน้าที่กรรมการเปิดซองสอบราคาทั้งที่ไม่มีหน้าที่ และทำรายงานผลการเปิดซองสอบราคาเป็นเท็จเพื่อเสนอให้จ้างเอกชนรายใดรายหนึ่ง ทำและรับรองฎีกาเบิกเงินค่าจ้าง ว่าได้ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ ถูกต้องแล้ว
ส่วนเอกชนที่เป็นผู้รับจ้างปรับปรุงซ่อมแซมสระน้ำ ถนน อาคารสถานที่ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานครั้งนี้ จากการไต่สวนข้อเท็จจริงก็พบว่ามีพฤติการณ์ ร่วมกับผู้มีอำนาจสั่งจ้าง กรรมการเปิดซองสอบราคา
คณะกรรมการตรวจการจ้าง และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง กระทำการเพื่อให้ได้เป็นคู่สัญญารับจ้าง และตกลงร่วมกับผู้เสนอราคารายอื่น เพื่อให้ได้เป็นคู่สัญญาโดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติชี้มูลความผิด ดังนี้
๒.1 นางสาวภัคภร เรขะกมลพร หรือ ประไพศรี เผ่าพันธุ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ กองคลัง และรองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และข้าราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่ร่วมกระทำความผิด รวม ๑๕ คน (ถึงแก่ความตายก่อน ๑ คน) มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการและฐานจงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการตามกฎหมายและระเบียบของทางราชการ และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 มาตรา 161 และ มาตรา 162 (1) (4) ฐานใช้อุบายหลอกลวงหรือกระทำการโดยวิธีอื่นใดเป็นเหตุให้ผู้อื่นไม่มีโอกาสเข้าทำการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือให้มี
การเสนอราคาโดยหลงผิด และกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๗ และมาตรา ๑๒ และ ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123 (ฐานความผิดดังกล่าวจะแตกต่างกันไปตามพฤติการณ์ในการกระทำความผิดของผู้ถูกกล่าวหาแต่ละราย)
พร้อมทั้ง ให้แจ้งกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อดำเนินการสอบสวนหาผู้รับผิดทางละเมิดด้วย
๒.๒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด หุ้นส่วนผู้จัดการ และกรรมการบริษัท ผู้รับจ้างปรับปรุงซ่อมแซมสระน้ำ ถนน อาคารสถานที่ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่ร่วมในการกระทำผิดอีก ๑๙ ราย มีมูลความผิดทางอาญา ฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และฐานตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม และฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา 4 และมาตรา ๑๒ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 (ฐานความผิดดังกล่าว จะแตกต่างกันไปตามพฤติการณ์ในการกระทำความผิดของผู้ถูกกล่าวหาแต่ละราย)ส่วนบริษัทและห้างหุ้นส่วนจำกัดที่ร่วมกระทำผิดอีก ๒ แห่ง ปรากฏว่าแห่งแรกเป็นบริษัทที่ได้จดทะเบียนเลิกกิจการไปแล้ว จึงให้ยุติการไต่สวน สำหรับห้างหุ้นส่วนจำกัดอีกแห่งหนึ่ง ปรากฏว่าการกระทำของหุ้นส่วนผู้จัดการ เป็นการกระทำนอกกรอบวัตถุประสงค์ของห้างฯ ไม่มีผลผูกพันห้างฯ จึงให้ข้อกล่าวหาตกไป