กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--ปตท.
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงอยู่ทิศทางระดับสูงนับตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมเป็นต้นมา ล่าสุดเป็นผลมาจากเหตุก่อการร้ายที่ท่อขนส่งน้ำมันไนจีเรีย ทำให้ต้องเลื่อนการส่งออกน้ำมันดิบในปริมาณ 300,000 บาร์เรล/วัน ออกไป ตลาดจึงเกิดความกังวล โดยในวันนี้ (23 ธ.ค.48) ราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ระดับ 52.60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ เบนซิน95 อยู่ที่ระดับ 61.35 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดีเซล อยู่ที่ระดับ 66.90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ต้นทุนราคาเนื้อน้ำมันในประเทศปรับตัวสูงขึ้นตาม ในขณะที่ก่อนหน้านี้ยังมีต้นทุนเดิมที่สูงอยู่แล้ว ทำให้ค่าการตลาดเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์โดยรวมอยู่ประมาณ 1 สตางค์/ลิตร ปตท. จึงมีความจำเป็นต้องปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลทุกชนิดขึ้น 40 สตางค์/ลิตร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ธ.ค. 48) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขต กทม.และปริมณฑลเป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95 26.04
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส 24.54
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 25.24
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ ยูโร ทรี 23.49
น้ำมันดีเซล-ปาล์ม (บริสุทธิ์) 22.99
สำหรับน้ำมันเบนซินในตลาดสิงคโปร์ ได้ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ และยังเป็นผลมาจากเวียตนามมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้น ในขณะที่จีนจะลดการส่งออกน้ำมันเบนซินในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า (2549) ทำนองเดียวกันน้ำมันดีเซลได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกาหลีใต้จะลดการส่งออกน้ำมันดีเซลในเดือนมกราคมลงถึง 20% (จากเดือนธันวาคม 2548) มาอยู่ที่ระดับ 240,000 ตัน สืบเนื่องจากมีความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในประเทศเพิ่มมากขึ้นจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นและเกิดพายุหิมะในบางพื้นที่
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ปตท. กล่าวเสริมว่า ในระยะสั้นราคาน้ำมันจะยังคงผันผวนสูงจากการที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันชะลอการส่งออก ในขณะที่สหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย มีความต้องการใช้น้ำมันเพื่อทำความอบอุ่นในฤดูหนาว อย่างไรก็ตาม พยากรณ์อากาศคาดว่าอุณหภูมิในสหรัฐฯ จะเริ่มสูงขึ้นในเดือน ม.ค.-มี.ค.49 นี้ และปริมาณสำรองน้ำมันดิบสหรัฐฯ และประเทศในกลุ่ม OECD ยังในอยู่ในระดับพอเพียง อาจช่วยให้ราคาอ่อนตัวลงได้บ้าง อย่างไรก็ดีต้องขอความร่วมมือจากทุกท่านใช้พลังงานอย่างประหยัดและตรวจสอบรถยนต์ตามระยะ เพื่อให้รถยนต์มีสภาพสมบูรณ์และช่วยลดความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ หรือใช้พลังงานทดแทน อาทิ แก๊สโซฮอล์ ซึ่งมีราคาประหยัดกว่า คุณภาพเท่ากับเบนซิน 95 โดย ปตท. ได้จำหน่าย “พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส” ณ สถานีบริการน้ำมันกว่า 1,100 แห่ง ทั่วประเทศแล้ว
ส่วนประชาสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ปตท.
โทรศัพท์ 0 2537 2537, 2568
โทรสาร 0 2537 2572, 2571--จบ--