กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--TQPR
ประเทศนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีแนวชายฝั่งทะเลที่ยาวที่สุด รวมทั้งมีสภาพแวดล้อมใต้ทะเลที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก แหล่งน้ำในมหาสมุทรขนาดใหญ่ที่อยู่ล้อมรอบจึงเป็นหนึ่งในแหล่งอาหารทะเลที่ดีที่สุดในตลาดระหว่างประเทศ
และนี่คืออาหารทะเล 5 ประเภทที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมีโอกาสไปเยือนประเทศนิวซีแลนด์ โดยอาหารทะเลแต่ละประเภทมีแหล่งที่มาจากหลากหลายภูมิภาคของเกาะใต้ ดังนั้นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดคือการเดินทางไปยังเมืองไคร้สท์เชิร์ช แล้วมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือสู่เมืองไคคูร่าและเมืองมาร์ลโบโรห์ แล้วจึงเดินทางไปยังทิศตะวันตกสู่อาวรากิเมาท์คุกและชายฝั่งทะเลตะวันตก หรือเดินทางลงใต้สู่เมืองบลัฟฟ์
หอยแมลงภู่สีเขียวในเมืองมาร์ลโบโรห์
ในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถพบเห็นหอยแมลงภู่ที่เต็มไปด้วยรสชาติและมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษได้ทุกที่ในประเทศนิวซีแลนด์ตลอดทั้งปี แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด เราขอแนะนำให้คุณเดินทางไปลิ้มรสหอยแมลงภู่จากแหล่งที่มาโดยตรงซึ่งตั้งอยู่ในเมืองมาร์ลโบโรห์ โดยร้อยละ 80 ของฟาร์มเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ได้ตั้งอยู่ในเมืองนี้
คำแนะนำในการเดินทาง
บริษัทซีฟู้ด ออดดิซี (Seafood Odyssea) ซึ่งเป็นบริษัททัวร์เมืองมาร์ลโบโรห์ จะเดินทางออกจากท่าเรือ พิกตัน ฮาร์เบอร์ ในเวลาบ่ายของทุกวัน คุณสามารถล่องเรือชมบรรยากาศอันงดงามของ มาร์ลโบโรห์ ซาวด์ พร้อมดื่มด่ำไปกับเมนูมื้อกลางวันที่นำหอยแมลงภู่สดใหม่ไปอบ และเดินทางไปเยี่ยมชมฟาร์มหอยแมลงภู่ถึงที่ สนามบินเบลนเนมตั้งอยู่ห่างจากเมืองพิกตันออกไปเพียง 30 นาทีด้วยการขับรถยนต์ โดยสารการบิน แอร์ นิวซีแลนด์ ให้บริการเที่ยวบินรายวันจากเบลนเนมไปยังอ็อคแลนด์ เวลลิงตัน และไคร้สท์เชิร์ช
http://www.marlboroughtourcompany.co.nz/tours-cruises/greenshell-mussel-cruise
เครย์ฟิชในเมืองไคคูร่า
คำว่า ไคคูร่า มีความหมายว่า ‘การกินเครย์ฟิช’ ในภาษาเมารี (ไค แปลว่า อาหาร/กิน คูร่า แปลว่า เครย์ฟิช) ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่การกินเครย์ฟิชนั้นกลายเป็นสิ่งห้ามพลาดเมื่อได้ไปเยือนเมืองไคคูร่า
เมืองไคคูร่า ซึ่งเป็นเมืองขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรและเทือกเขาบนทางหลวง มีชื่อเสียงมาจากสัตว์ทะเลที่หลากหลาย ได้แก่ วาฬและแมวน้ำ รวมถึงการเป็นหนึ่งในแหล่งเครย์ฟิชที่ดืที่สุดในโลก
คำแนะนำในการเดินทาง
นินซ์ บิน (Nin’s Bin) รถร้านอาหารที่ได้กลายมาเป็นจุดแวะข้างทางอันโด่งดังของทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนท้องถิ่น การเดินทางมาที่ร้าน นินซ์ บิน เพื่อกินมื้อกลางวันที่ทำจากเครย์ฟิชเป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องทำเมื่อได้เดินทางไปท่องเที่ยวประเทศนิวซีแลนด์ นินซ์ บิน ตั้งอยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 1 (SH 1) โดยตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองไคคูร่าด้วยระยะเวลาการขับรถ 20 นาที
www.kaikoura.co.nz
คิงแซลมอนที่เมาท์คุก
เมาท์คุกอัลไพน์แซลมอน ฟาร์มแซลมอนในทะเลสาบเทคาโปซึ่งตั้งอยู่ 667 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลในลุ่มแม่น้ำแม็คเคนซี่บริเวณเทือกเขาแอลป์สตอนใต้ของประเทศนิวซีแลนด์ เป็นฟาร์มแซลมอนที่สูงที่สุดในโลก โดยมีกระแสน้ำเย็นที่ไหลผ่านอย่างรวดเร็วตลอดทั้งปีจากธารน้ำแข็งบนภูเขา อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในผู้ทำฟาร์มแซลมอนที่ยั่งยืนที่สุดในโลก ดังนั้นจึงไม่มีที่ใดที่เหมาะสมกับการซื้อปลาแซลมอนสดเพื่อเป็นอาหารสำหรับการปิกนิกริมทะเลสาบปูคากิพร้อมวิวยอดเขาสูงสุดของอาวรากิเมาท์คุกเท่ากับเมาท์คุกอัลไพน์แซลมอนอีกแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่น่าประทับใจยิ่งกว่าด้วยการตกปลาแซลมอนด้วยตัวเองที่แม่น้ำหลายแห่งที่ตั้งอยู่ใกล้บริเวณภูเขาหิน เช่น แม่น้ำอฮูริริและทะเลสาบเทคาโป สำหรับร้านอาหารประเภท fine dining เราขอแนะนำห้องอาหาร พาโนรามา รูม โรงแรมเฮอร์มิเทจ ซึ่งตั้งอยู่ที่เมาท์คุกวิลเลจ
คำแนะนำในการเดินทาง
การเดินทางไปสู่เมาท์คุกอัลไพน์แซลมอนนั้นเป็นเรื่องง่าย ด้วยระยะเวลาการขับรถยนต์ 3.5 ชั่วโมงจากเมืองไคร้สท์เชิร์ช หรือ 2.5 ชั่วโมงจากเมืองควีนส์ทาวน์ เมาท์คุกอัลไพน์แซลมอนตั้งอยู่ในบริเวณลุ่มแม่น้ำแม็คเคนซี่บนเกาะใต้ อาวรากิเมาท์คุกซึ่งมีความสูง 3,754 เมตรเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในนิวซีแลนด์ที่มีชื่อว่า ทัสมัน ทางเรือได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม – พฤษภาคม โดยจะได้เยี่ยมชมอย่างใกล้ชิดและมีโอกาสได้สัมผัสภูเขาน้ำแข็ง ท้องฟ้าที่อยู่เหนือเมาท์คุก ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าพื้นที่ 4,300 ตารางกิโลเมตรของเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ เป็นที่รู้จักในฐานะเขตอนุรักษ์ฟ้ามืดสากล (International Dark Sky Reserve) ซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์ความมืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสประสบการณ์ทัวร์ดูดาวในเวลากลางคืนได้ที่เมาท์จอห์น ซึ่งตั้งอยู่เหนือทะเลสาบเทคาโป
http://www.hermitage.co.nz/
http://alpinesalmon.co.nz/
ปลาไวท์เบท ณ ชายฝั่งตะวันตก
ปลาไวท์เบทเป็นปลาที่พบมากในบริเวณแม่น้ำหลายแห่งของประเทศนิวซีแลนด์ แต่การจับปลาชนิดนี้ถือเป็นศิลปะ ชาวประมงจะต้องใช้ตาข่ายที่เหมาะสมและความอดทนอย่างมากในการจับปลาขนาดเล็กให้ได้ตามจำนวนที่ต้องการในฤดูกาลตกปลาที่มีระยะเวลาแสนสั้น (กลางเดือนสิงหาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน) แหล่งปลาไวท์เบทที่ใหญ่ที่สุดมักจะพบได้ตามแหล่งน้ำหลายแห่งบริเวณชายฝั่งตะวันตกของเกาะใต้ ดังนั้นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเดินทางคือช่วงเทศกาลฤดูกาลปลาไวท์เบทชายฝั่งตะวันตก (West Coast Whitebait Season Festival) ในเดือนกันยายน
หากคุณเดินทางไปทางใต้จากธารน้ำแข็งซึ่งอยู่บริเวณทางหลวงหมายเลข 6 (SH6) เราขอแนะนำให้จอดแวะที่บริษัท เคิร์ลลี่ ทรี ไวท์เบท คอมปะนี (Curly Tree Whitebait Company) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองฮาสท์เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับปลาไวท์เบทและลองชิมอาหารที่นั่น
คำแนะนำในการเดินทาง
มอนทีธ บริวเวอร์รี่ ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเกรย์เมาท์ในภูมิภาคชายฝั่งทะเลตะวันตก มีเมนูปลาไวท์เบทชุบแป้งทอด (whitebait fritter or pattie) เสิร์ฟที่ร้าน และสามารถเดินทางจากเมืองไคร้สท์เชิร์ชสู่เมืองเกรย์เมาท์บนเส้นทางรถไฟ ทรานซ์อัลไพน์ (TranzAlpine) ซึ่งเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยรถไฟที่วิ่งบนเส้นทางที่สวยงามที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์แห่งนี้ออกเดินทางจากเมืองเคร้สท์เชิร์ชทุกวัน
http://www.curlytreewhitebait.com/
หอยนางรมเมืองบลัฟฟ์
หอยนางรมนิวซีแลนด์ตัวใหญ่และมีรสชาติชุ่มฉ่ำนั้นได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในหอยนางรมที่อร่อยที่สุดในโลก เมืองบลัฟฟ์คือเมืองแห่งการเพาะเลี้ยงหอยนางรมในประเทศนิวซีแลนด์ และหอยนางรมเมืองบลัฟฟ์ยังเป็นเมนูห้ามพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มีโอกาสไปเยือนเมืองแห่งนี้อีกด้วย เทศกาลหอยนางรมแห่งเมืองบลัฟฟ์ (Bluff Oyster Festival) ซึ่งจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม เป็นโอกาสในการได้ลิ้มรสหอยนางรมเมืองบลัฟฟ์ที่ไม่ควรพลาด คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงและความสนุกสนานที่เกี่ยวข้องกับหอยนางรม เช่น การแข่งกินหอยนางรม และการแข่งแกะหอยนางรมออกจากเปลือก เป็นต้น
คำแนะนำในการเดินทาง
เมืองบลัฟฟ์ตั้งอยู่ห่างจากเมืองอินเวอร์คาร์กิลล์ด้วยระยะทางการขับรถยนต์เพียง 30 นาที โดยสายการบิน แอร์ นิวซีแลนด์ ให้บริการเที่ยวบินไปยังอินเวอร์คาร์กิลล์จากเมืองเวลลิงตันและไคร้สท์เชิร์ช ในช่วงฤดูกาลหอยนางรม ร้านอาหารหลายแห่งในเมืองอินเวอร์คาร์กิลล์และภูมิภาคเซาท์แลนด์จะเสิร์ฟเมนูที่ทำมาจากหอยนางรมเมืองบลัฟฟ์ รวมทั้งยังใช้เป็นวัตถุดิบในการทำเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านด้วย ร้าน ออยสเตอร์ โคฟ (Oyster Cove) เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่มีชื่อเสียงมากที่สุด โดยตั้งอยู่ใกล้กับสเตอร์ลิงในเมืองบลัฟฟ์ อีกทั้งยังมีวิว 180 องศาอันงดงามของเกาะรัวปูกิ เกาะด็อก และเกาะสจ๊วต www.oystercove.co.nz