กรุงเทพ--24 มี.ค.--ปตท.สผ.
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2541 ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ประธานกรรมการ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยภาพรวมของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมา ว่า ปตท.สผ. มีสินทรัพย์รวมสูงเป็นอันดับ 1 ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่องกันถึง 65 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. 2540 ถึงวันที่ 5 ก.พ. 2542 ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือเท่ากับอันดับของรัฐบาลไทย
เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับลดต่ำสุดในรอบ 12 ปี โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 12.2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศได้ปรับลดลงอีกร้อยละ 2.4 ตามวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ ปตท.สผ.จึงได้กำหนดนโยบายในการดำเนินธุรกิจในปี 2541 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานะการณ์ดังกล่าว โดยมุ่งเน้นการปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ชะลอการลงทุนพัฒนาในโครงการที่ยังไม่มีตลาดรองรับเช่นโครงการเจดีเอ และโครงการบงกชระยะที่ 4 ชะลอการลงทุนสำรวจในโครงการยาดานา สรรหาผู้ร่วมทุนในโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการสำรวจ เช่น โครงการอาทิตย์และโครงการในปี 5/27 เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพสูงและอยู่ในขั้นตอนการผลิต เช่น การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นอีกร้อยละ 4.4445 ในโครงการบงกชซึ่งได้รับการโอนเป็นผู้ดำเนินกิจการจากบริษัทโททาลเมื่อเดือนกรกฎาคม 2541 นอกจากนี้ ปตท.สผ. ได้เพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติจากโครงการฯ เป็น 550 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในส่วนของการระดมทุนบริษัทฯ ได้ทำการสรรหาเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำจากผู้ร่วมทุนในโครงการอาทิตย์ สถาบันการเงินต่างประเทศ และการออกหุ้นกู้ไม่มีประกัน จากนโยบายในการดำเนินธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้ ปตท.สผ.มีรายได้รวมทั้งสิ้น 12,249 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2540 และมีกำไรสุทธิ 2,311 ล้านบาท
ในส่วนปริมาณความต้องการการใช้ก๊าซธรรมชาติในประเทศ ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 7 ในปี 2541 หรือประมาณ 1,600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนให้ใช้ก๊าซธรรมชาติทดแทนน้ำมันเตาในการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น ในปี 2541 นี้ บริษัทฯ มีปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่พิสูจน์ทราบแล้ว 778 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบหรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 30 นอกจากนี้ ปตท.สผ.ได้เพิ่มอัตราการผลิตอีกร้อยละ 13 โดยมีอัตราการผลิตปิโตรเลียมเฉลี่ยเท่ากับ 46,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นการผลิตก๊าซธรรมชาติร้อยละ 80
ในปี 2542 ปตท.สผ.ยังคงยึดนโยบายที่จะมุ่งเน้นการปรับลดการลงทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ในโครงการที่ยังไม่มีตลาดรองรับโดยได้ประมาณการเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายในช่วงปี 2542-2546 สำหรับโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบันและมีสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติรองรับอยู่แล้ว เป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 44,000 ล้านบาท ลดลงจากการประมาณการเดิมร้อยละ 52 และเน้นการลงทุนในโครงการที่มีผลตอบแทนสูงและมีความเสี่ยงต่ำเช่น โครงการบงกช โครงการยานาดา และโครงการไพลิน ซึ่งคาดว่า ปตท. จะสามารถรับก๊าซธรรมชาติจากโครงการยาดานา และโครงการไพลินได้ภายในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังทำการศึกษาพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง เช่น ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง รวมทั้งศึกษาแนวทางการลงทุนในธุรกิจต่อเนื่อง--จบ--