ASEFA ตั้งเป้ารายได้ 5 ปีข้างหน้า โตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 15%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 27, 2015 16:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--IR PLUS ASEFA “ไพบูลย์ อังคณากรกุล” เอ็มดี เผยปี 2559 จะเริ่มเห็นประสิทธิผลของการนำเงินจากการระดมทุนไป ขยายธุรกิจทั้งในแง่ขยาย กำลังการผลิตและสาขา ตั้งเป้ารายได้ใน 5 ปีข้างหน้า (2559-2563) เติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละ 15% หลังจากบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯพร้อมพัฒนาสินค้าและหาพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อขยายฐานธุรกิจและดูธุรกิจต้นน้ำ เพื่อป้อนวัตถุดิบสำหรับผลิตอุปกรณ์ส่งจ่ายไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์สวิตช์บอร์ดไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้า เพื่อลดต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ นายไพบูลย์ อังคณากรกุล กรมมการผู้จัดการ บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA ผู้ประกอบธุรกิจผลิต จำหน่ายและติดตั้งผลิตภัณฑ์กระจายและส่งจ่ายไฟฟ้า สวิตซ์บอร์ดไฟฟ้า รางไฟฟ้า โคมไฟและระบบส่องสว่าง งานบริการวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง และงานบริการหลังการขายครบวงจร เปิดเผยว่า ภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้พัฒนาสินค้าและขยายฐานสินค้าไปยังสินค้าต้นน้ำ ซึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างแสวง หาพันธมิตรใหม่ เพื่อผลิตอุปกรณ์ส่งจ่ายไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์สวิตช์บอร์ดไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้า เพื่อลดต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ โดยในปี 2559 จะเริ่มเห็นประสิทธิผลของการนำเงินจากการระดมทุนไปขยายธุรกิจ โดยการขยายโรงงานผลิต จะสนับสนุนประสิทธิภาพการผลิตสวิตช์บอร์ดไฟฟ้า ซึ่งยังมีช่องว่างเพื่อขยายอัตราการใช้กำลังการผลิตอีกมาก ส่วนการเปิดสานักงานขายใน 10 จังหวัด จะช่วยหนุนการสร้างยอดขายลูกค้าใหม่ในตลาดภูมิภาค พร้อมกันนี้ บริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ใน 5 ปีข้างหน้า (59-63) เติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละ 15% ซึ่งจะเป็นไปตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นและสาขาที่ เพิ่มขึ้น โดยจะทำให้มีการกระจายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย สำคัญ ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ 1,500 ล้านบาท สามารถรับรู้ได้ในปีนี้ราว 1,100 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนรายได้ปัจจุบัน (ไม่รวมรายได้จากโครงการรื้อถอนโรงไฟฟ้า) มาจากกลุ่มธุรกิจผลิตและจัดจำหน่าย 69% เทรดดิ้ง 13% ส่วนที่เหลือเป็นงานด้านบริการ สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2558 บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 1,124.49 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 783.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 340.98 ล้านบาท หรือ 43.51 % กำไรสุทธิอยู่ที่ 71.36 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 39.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.76 ล้านบาท หรือ 80.20% ขณะที่ปีนี้รายได้ของบริษัทจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20-25% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,704.19 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง และบริษัทได้ปรับโครงสร้างภายในด้วยการลดจำหน่ายสินค้าที่มีอัตรากำไรต่ำ ประกอบกับปีนี้บริษัทจะได้ประโยชน์จากการลงทุน โครงการ โครง สร้างพื้นฐานของภาครัฐฯ อาทิ โครงการรถไฟฟ้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ