กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--Ninety Nine Communications
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับกลุ่มรักชาติ แมเนจเม้นท์ กรมหม่อนไหม บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จัดงาน “มหกรรมผ้าไหมไทย ร่วมเทิดไท้ราชินี” ครั้งที่ ๕ เนรมิตท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นรันเวย์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ อวดผ้าไทยโบราณและชุดผ้าไหมเลอค่า
โดยนางแบบกิตติมศักดิ์และเอกอัครราชทูต สุภาพสตรีจากประเทศต่างๆ เพื่อเทิดพระเกียรติพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสเฉลิม พระชนม์พรรษาครบรอบ ๘๓ พรรษา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับกลุ่มรักชาติ แมเนจเม้นท์ และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) จัดงาน “มหกรรมผ้าไหมไทย ร่วมเทิดไท้ราชินี” ครั้งที่ ๕ จัดแสดงนิทรรศการผ้าไหมไทยในแต่ละภูมิภาคพร้อมแหล่งข้อมูลท่องเที่ยวหมู่บ้านผ้าไหมไทย ณ ห้องโถงผู้โดยสารขาออก ฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ สิงหาคม –๓ กันยายนนี้
กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประธานในพิธีเปิดงาน กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานมหกรรมผ้าไหมไทย ร่วมเทิดไท้ราชินีและนิทรรศการในครั้งนี้ว่า เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถที่ทรงมีต่อเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ช่างทอผ้าไหม และวงการผ้าไหมไทย โดยได้นำผ้าไหมไทยในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทยมาจัดแสดงนิทรรศการ พร้อมข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวหมู่บ้านผ้าไหมไทย (Silk Tourism) เพื่อฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยจัดขึ้น ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพราะเปรียบเสมือนประตูด่านแรกที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ทำความรู้จักกับประเทศไทย ซึ่งโครงการฯ นี้เป็นการร่วมมือร่วมใจของภาครัฐ ภาคเอกชน และ คณะทูต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวอีกครั้ง
ด้าน เอ็ดเวิร์ด กิตติ ประธานกลุ่มรักชาติ แมเนจเม้นท์ กล่าวว่า งานมหกรรมผ้าไหมไทย ร่วมเทิดไท้ราชินีครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ ๕ แล้ว ซึ่งแต่ละครั้งที่ผ่านมาก็ประสบความสำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี และในปีนี้กลุ่มรักชาติ แมเนจเม้นท์ก็ได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กรมหม่อนไหม, บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน), สมาคมกล้วยไม้ไทย และเครื่องสำอาง BSC โดยแต่ละปีเราได้นำผ้าไหมและผ้าไทยหายากมาจัดแสดงนิทรรศการ รวมไปถึงได้เชิญนางแบบกิตติมศักดิ์มาร่วมแสดงแฟชั่นโชว์โดยเฉพาะเอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆ และปีนี้พิเศษกว่าปีไหนๆ เมื่อเราได้รับเกียรติจาก คุณสิริพร ภาณุพงศ์ อัครราชทูต ภริยาอดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงออตตาวา นำทีมนางแบบกิตติมศักดิ์ประกอบด้วย ข้าราชการสตรีและภริยาเอกอัครราชทูตไทยจากกระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งผู้บริหาร ทอท. และภริยาอัยการสูงสุด มาร่วมเดินแบบชุดไทยโบราณหายากจากกรมหม่อนไหม ร่วมกับเอกอัครราชทูตสุภาพสตรี ได้แก่ เอกอัครราชทูตจากบังกลาเทศ, เขมร, ฟินแลนด์, ปานามา, แอฟริกาใต้, ศรีลังกา และภริยาเอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆ มาร่วมเดินแบบในชุดประจำชาติของประเทศนั้นๆ โดยรังสรรค์ขึ้นจากผ้าไหมไทย ซึ่งเป็นฝีมือการออกแบบร่วมกันของเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ร่วมกับน้องๆ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร ซึ่งนอกจากจะเป็นการเผยแพร่เสน่ห์ของผ้าไทยแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนดีไซเนอร์หน้าใหม่ได้ร่วมจัดแสดงผลงานอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีนางแบบระดับแนวหน้าของเมืองไทย อาทิ ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม, คาร่า พลสิทธิ์, ซอนย่า คูลลิ่ง ฯลฯ มาร่วมเดินแบบชุดผ้าไทยแฟชั่นที่สามารถสวมใส่ได้ทุกไลฟ์สไตล์
ภายในงาน“มหกรรมผ้าไหมไทย ร่วมเทิดไท้ราชินี” ครั้งที่ ๕ (Celebration of Silk, Discover Thainess) มีการจัดกิจกรรมเป็น ๒ ส่วน ได้แก่ การจัดนิทรรศการผ้าไหมไทย โดยนำผ้าไหมไทยในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทยมาจัดแสดง พร้อมข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวหมู่บ้านผ้าไหมไทย (Silk Tourism) เพื่อเผยแพร่ให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่ใช้บริการเดินทางผ่านเข้า-ออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้มีโอกาสเยี่ยมชม โดยจัดแสดงตั้งแต่วันที่ ๒๕ สิงหาคม-๓ กันยายน ๒๕๕๘ ณ ห้องโถงผู้โดยสารขาออก ฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตก และไฮไลต์อยู่ที่การจัดแสดงแฟชั่นโชว์จากผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทยในคอนเซ็ปต์ไหมไทยสู่สายตาชาวโลกแบบวิถีไทย “Discover Thainess Through The World” ในวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๘ ณ ส่วนบริการผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ สายการบินไทย ชั้น ๔ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งประกอบด้วย ๔ ชุด
รันเวย์ครั้งนี้เปิดฉากความงดงามวิจิตรตระการตาของการแสดงผ้าไทยโบราณจากกรมหม่อนไหม ในการแสดงชุดที่หนึ่ง The Beauty of Thai Tradition เป็นการแสดงผ้าไทยโบราณ ที่มีความงดงามในจินตลีลาผ้าพลิ้วไหว วิจิตรตระการตา บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน โดยได้รับเกียรติจากนางแบบกิตติมศักดิ์จากกระทรวงการต่างประเทศนำโดย สิริพร ภาณุพงศ์ อัครราชทูต ภริยาอดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงออตตาวา, พรรณนภา จันทรารมย์ รองอธิบดีกรมยุโรป กระทรวงการต่างประเทศ, รัตนประภา ดิศวัฒน์ ภริยารองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ, ทพญ.วิไลวรรณ จันตะเสน ภริยาอดีตเอกอัครราชทูต ณ คูเวต, มกรา อนะมาน ภริยาอดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน, ฉฎาณิศา ชำนาญเวช ผู้เชี่ยวชาญ 10 และรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ภัทรียา วินิจนัยภาค ภริยาอัยการสูงสุด มาร่วมเดินแบบ
แต่งเติมเพิ่มเสน่ห์ให้ผ้าไทยด้วย แฟชั่นโชว์ชุดที่สองThe Thainess Welcome เป็นการนำผ้าจากภูมิปัญญาไทย เช่น ผ้าแพรวา ผ้ามัดหมี่ ผ้าทอย้อมคราม ผ้าหางกระรอก ฝ้ายยกดอก มาดีไซน์รังสรรค์ให้เข้ากับแฟชั่นสมัยใหม่ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผ้าไทยได้รับความนิยมจากสังคมแฟชั่นระดับสากลซึ่งชุดนี้จะแสดงโดยเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน), และการบินไทย เพิ่มความทันสมัยแต่ไม่ทิ้งความงามอันวิจิตรด้วย แฟชั่นโชว์ชุดที่สามThe Wonder of Modern Thai Silk เป็นการนำผ้าไหมไทยที่มีลักษณะผ้าพื้น ผ้าลายดอก ผ้าลวดลายแฟชั่นที่มีสีสันสดใส และลวดลายสวยงาม นำมาออกแบบ ตัดเย็บ ให้เข้ากับแฟชั่นสมัยใหม่ในรูปแบบไลฟ์สไตล์ งานนี้ได้มีการรวมตัวของนางแบบชื่อดังอีกครั้งหนึ่งบนเวทีอลังการ อาทิ แอนนา-นาตาชา เปลี่ยนวิถี, อุ๋ม-อาภาศิริ นิติพน, ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม, คาร่า พลสิทธิ์, ซอนย่า คูลลิ่ง, เข็ม-รุจิรา ช่วยเกื้อ, มาริสา แอนนิต้า, แนท-อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ๒๐๑๕, แอมป์-สุทธิกานต์ หวังเจริญทวีกุล, ออร์แกน-ราศี วัชราพลเมฆ, โย-ยศวดี หัสดีวิจิตร
ปิดท้ายด้วยไฮไลต์การแสดงชุดที่สี่ Discover Thainess Through The World เป็นแฟชั่นโชว์ที่ได้รับเกียรติจากเอกอัครราชทูตสุภาพสตรีจาก บังกาลาเทศ, เขมร, ฟินแลนด์, ปานามา, แอฟริกาใต้และศรีลังกา เป็นนางแบบกิตติมศักดิ์ร่วมกับและภริยาเอกอัครราชทูตจาก ออสเตรีย, ชิลี,โคลัมเบีย, เดนมาร์ก, อินโดนีเซีย, ไนจีเรีย และ โปรตุเกส ร่วมแสดงแฟชั่นโชว์ในชุดผ้าไหมไทยที่ได้รับการออกแบบเป็นชุดประจำชาติของประเทศต่างๆ โดยนำผ้าไหมไทยจากกรมหม่อนไหมที่ได้รับพระราชทาน ตรานกยูง จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพผ้าไหมไทย นำมาตัดเย็บชุดให้แก่คณะทูตานุทูตสุภาพสตรี
แนวคิดในการออกแบบชุดของท่านภริยาเอกอัครราชทูตประเทศออสเตรีย Mrs.JuriSekiguohi–Drofenik ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดพื้นบ้านของชาวออสเตรีย โดยชุดนี้ได้มีการนำผ้าหลากหลายชนิดมาตัดเย็บประกอบด้วยผ้าไหม 2 เส้น จากปักธงชัย ผ้าไหม 4 เส้นทอละเอียดจากกลุ่มบ้านครัวและตกแต่งด้วยชุดผ้าไหมแก้ว
ท่านภริยาเอกอัครราชทูตประเทศ โคลัมเบีย Mrs.Astrid Amay แนวความคิดของชุดได้แรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมโบราณของโคลัมเบียผสมผสานกับชุดประจำชาติใช้การตัดเย็บด้วยไหม 2 เส้น จากกลุ่มบ้านครัว และไหมแก้วเขียนลายเทียนโดยใช้เทคนิคการซ้อนผ้า 2 ชั้น
ท่านภริยาเอกอัครราชทูตประเทศเดนมาร์ก คุณรัตนาวดี เหมนิธิ วินเทอร์ แนวความคิดของชุด ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบชุดนี้ได้มาจากชุดประจำชาติของเดนมาร์กมาผสมผสานความเป็นแฟชั่นเข้าไปให้ดูร่วมสมัย โดยใช้ผ้าไหม 2 เส้นจากปักธงชัยและเทคนิคการปักลูกไม้จากลวดลายของเครื่องกระเบื้องซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวเดนมาร์ก
ท่านภริยาเอกอัครราชทูตประเทศฟินแลนด์ Mrs.Saara Alhoporo แนวความคิดของชุดได้แรงบันดาลใจมาจากชุดประจำชาติฟินแลนด์ผสมผสานกับเอกลักษณ์ลายผ้าของ Marimekko Unikko นักออกแบบชื่อดังชาวฟินแลนด์โดยใช้ผ้าไหม 4 เส้นผสมกับผ้าไหมทอลายดอกพิกุลจากขอนแก่นผสมผสานกับเทคนิคการปักและการตัดต่อลายผ้า
ท่านภริยาเอกอัครราชทูตประเทศอินโดนีเซีย Mrs.Tenri Dolong Syam Rauf แนวความคิดของชุดได้แรงบันดาลใจมาจากชุดนางรำของหญิงสาวชาวอินโดนีเซียกับโครงร่างของชุดประจำชาติมาผสานกันโดยใช้ผ้าไหมพื้นจากปักธงชัยเป็นไหม 2 เส้น มาตัดเย็บและใช้เทคนิคการพิมพ์ลายลงบนผ้าไหมและเพิ่มเทคนิคการปักลงบนชุด
ท่านภริยาเอกอัครราชทูตประเทศไนจีเรีย Mrs. Joy E. Okafor แนวความคิดของชุดได้แรงบันดาลใจมาจากชุดประจำชาติไนจีเรีย นำมาตัดทอนให้ดูแฟชั่นมากขึ้น โดยชุดนี้ใช้ผ้าไหมเขียนลายบาติก 4 เส้น จากปักธงชัย โดยมีเทคนิคพิเศษคือ ใช้คริสตัลรีดร้อน
ท่านภริยาเอกอัครราชทูตประเทศโปตุเกส Mrs.Maria Barreira de Sousa แนวความคิดของชุดได้แรงบันดาลใจมาจากโครงร่างของชุดประจำชาติโปตุเกส ซึ่งเป็นชุดพื้นเมืองดัดแปลงโครงร่างของชุดให้มีความเป็นแฟชั่นเพิ่มลงไปโดยใช้ผ้าไหม 2 เส้น ทอลายจากกลุ่มบ้านครัวมาตัดเย็บ
ท่านภริยาเอกอัครราชทูตประเทศชิลี Mrs.Annie Gonzalez de Beckerแนวความคิดของชุดได้แรงบันดาลใจมาจากชุดประจำชาติชิลีโดยการนำผ้าไหมทอลายใช้เทคนิคพิเศษจากกลุ่มบ้านครัวเป็นหลักและนำผ้าไหมพื้นจากบุรีรัมย์มาตกแต่งบางส่วน
ท่านเอกอัครราชทูตสุภาพสตรีประเทศบังกลาเทศ Saida MunaTasneem แนวความคิดของชุดได้แรงบันดาลใจมาจากชุดประจำชาติและสถานที่ท่องเที่ยวผสมผสานกับธรรมชาติของประเทศบังกลาเทศ นำเสนอผ่านชุดนี้ โดยใช้ผ้าไหมมัดหมี่จากปักธงชัยใช้ร่วมกับผ้าไหมพื้นจากผ้าไหมกลุ่มบ้านครัว
ท่านเอกอัครราชทูตสุภาพสตรีประเทศกัมพูชา Mrs.Astrid Amaya แนวความคิดของชุดได้แรงบันดาลใจมาจากชุดประจำชาติและศิลปะรูปแกะสลักซึ่งเป็นศิลปะของประเทศกัมพูชาโดยใช้ผ้าไหม 2 เส้นจากกลุ่มบ้านครัว ซึ่งเป็นผ้าไหมที่ทางกลุ่มบ้านครัวได้คิดลายขึ้นมาใหม่ให้ดูร่วมสมัยเพิ่มมากขึ้นและใช้เทคนิคการปักเพิ่มเข้าไปในชุดเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับชุด
ท่านเอกอัครราชทูตสุภาพสตรีประเทศปานามา Mrs.Maria DelCormenMartinezArosemena
แนวความคิดของชุดได้แรงบันดาลใจมาจากชุดประจำชาติปานามา โดยใช้ผ้าไหม 2 เส้นจากกลุ่มบ้านครัวและผ้าไหมจากปักธงชัยมาใช้ร่วมกันและเพิ่มเทคนิคการปักเพิ่มเข้าไปเพื่อให้ชุดดูสวยงามมากขึ้น
ท่านเอกอัครราชทูตสุภาพสตรีประเทศศรีลังกา Ksheunka Senewiratne แนวความคิดของชุดได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมและชุดประจำชาติของศรีลังกาโดยใช้ผ้าไหมมัดหมี่จากปักธงชัยตัดผสมผสานกับผ้าไหมลายจากสุรินทร์และผ้าไหมพื้นจากกลุ่มบ้านครัว
ท่านเอกอัครราชทูตสุภาพสตรีประเทศแอฟริกาใต้ H.E.Ms.Robina P. Marks แนวความคิดของชุดได้แรงบันดาลใจมาจาก ดอกโพรเทีย ที่รู้จักกันแพร่หลายในฐานะดอกไม้ประจำชาติของแอฟริกาและการตัดเย็บชุดนี้ใช้ผ้าไหม 4 เส้นสีดำ จากจังหวัดบุรีรัมย์ ผสมกับเทคนิคการปักเส้นไหมและใช้เลื่อมมาปักเป็นรูปดอกโพรเทีย
สำหรับภาพบรรยากาศในการแสดงแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ ได้นำไปประชาสัมพันธ์เพื่อเผยแพร่ สู่สายตาชาวโลกมากกว่า ๕๐๐ ล้านคนทั่วโลก โดยผ่านช่อง Fashion TV ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์เกี่ยวกับแฟชั่นโชว์โดยเฉพาะ