กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--สำนักงาน ป.ป.ส.
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เปิดตัวภาพยนตร์สั้นเรื่อง“พลังของคุณ” ตั้งเป้าหมายให้ผู้เสพผู้ติดยาเสพติด ได้มีแรงบันดาลใจ ภายหลังจากได้รับชมภาพยนตร์สั้นดังกล่าว และพร้อมที่จะเลิกจากการใช้ยาเสพติดอย่างสิ้นเชิง และต้องการสื่อสารไปยังเยาวชนกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มวัยก่อนเสี่ยงให้เห็นถึงปัญหาและตระหนักถึงอันตรายจากการเสพยาเสพติด
นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า ป.ป.ส. ได้เปิดตัวภาพยนตร์สั้นเรื่อง “พลังของคุณ” ความยาว 3 นาที เป็นภาพยนตร์ที่เกิดจากความร่วมมือของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) และสมาคมองค์กรพัฒนาเอกชนเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ภาคพื้นเอเชีย – แปซิฟิค (ASPAC NGO) ร่วมกันดำเนินการสร้าง โดยได้รับคำแนะนำจากท่าน ว. วชิรเมธี ที่เห็นว่าสภาพปัญหายาเสพติดในปัจจุบันของประเทศยังคงสร้างปัญหาและสร้างความเดือดร้อน กระทบถึงการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไป และเห็นว่าหนทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ได้ผลอย่างยั่งยืนที่สุด คือการสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันยาเสพติด ส่วนวิธีการในการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ดีและเร็วที่สุดคือการผลิตและเผยแพร่สื่อที่สามารถสื่อสารได้ในวงกว้าง สื่อที่กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายคิดและทำความเข้าใจตามเนื้อหาที่ต้องการสื่อสาร และให้กลุ่มเป้าหมายลงมือทำ และเลิกจากการใช้ยาเสพติดหรือปฏิเสธที่จะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างสิ้นเชิง ซึ่งการผลิตสื่อภาพยนตร์สั้นดังกล่าวได้มอบหมายให้ทีมจากบริษัท ฟีโนมีน่า จำกัด เป็นผู้ดูแล โดยมีคุณธนญชัย ศรศรีวิชัย เป็นผู้กำกับภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้
นายเพิ่มพงษ์ กล่าวว่า “จุดเริ่มต้นของภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ มาจากการที่ผมได้มีโอกาสเข้าพบและสนทนาธรรมกับท่าน ว. วชิรเมธี และได้พูดคุยเรื่องปัญหายาเสพติดในปัจจุบัน ซึ่งท่านก็ได้แนะนำว่า น่าจะมีการผลิตสื่อขึ้นมาใช้สำหรับการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด และสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เสพผู้ติดยาเสพติดได้ด้วย เพื่อให้ผู้ที่ได้รับชมสื่อรับรู้ถึงพิษภัยจากยาเสพติด และหันกลับมาเลิกยาเสพติด ส่วนเด็กๆ ก็จะได้เข้าใจว่ายาเสพติดเป็นสิ่งที่ไม่ดี สร้างผลเสียให้กับคนรอบข้าง และหนักที่สุดคือส่งผลเสียต่อตัวเองในทุกๆ ด้าน ทั้งสุขภาพ การเรียน การงาน ครอบครัว และก็สังคม เพียงแลกกับความสุขจอมปลอม ความสุขชั่วคราวจากการใช้ยาเสพติดที่ไม่มีจริง”
จากข้อมูลสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในปัจจุบัน พบว่ายังมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ทั้ง ยาบ้า ไอซ์ และเฮโรอีน ยาเสพติดที่เป็นปัญหาหลักและนำเข้ามาในปริมาณมาก ยังคงเป็นยาบ้า ซึ่งยังมีการจับกุมได้ในปริมาณมาก ทั้งคดีรายสำคัญและรายย่อย ซึ่งกลุ่มเด็กและเยาวชนก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของนักค้ายาเสพติดที่ต้องการเจาะเพื่อหวังผลทางการตลาดให้เป็นลูกค้ารายย่อย โดยเจาะเป้าหมายกลุ่มเด็กและเยาวชนผ่านกลุ่มผู้ค้ารายย่อย สำนักงาน ป.ป.ส. เห็นถึงความสำคัญของมาตรการในการป้องกันยาเสพติด จึงได้เน้นให้เกิดการดำเนินการในยุทธศาสตร์การป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยมีผลการดำเนินการนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 - 27 กรกฎาคม 2558 สามารถรณรงค์ให้สถานศึกษามีกิจกรรมการป้องกันและเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด ได้แล้วจำนวน 7,930 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 67.56 จากเป้าหมาย ดำเนินการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในกลุ่มเยาวชนก่อนวัยเสี่ยงในสถานศึกษา (นักเรียนระดับชั้น ป.1 - ป.6) ทั่วประเทศแล้วจำนวน 2,779,558 คน คิดเป็นร้อยละ 57.91 นอกจากนั้นยังเน้นในมาตรการด้านการบำบัดรักษาผู้เสพผู้ติดยาเสพติด ให้เข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดตามประกาศ คสช.ที่ 108/2557 ซึ่งสามารถบำบัดฟื้นฟูผู้เสพผู้ติดยาเสพติดได้ 178,362 คน คิดเป็นร้อยละ 78.35 จากเป้าหมาย โดยเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดในระบบสมัครใจจำนวน 75,906 คน ระบบบังคับบำบัด 80,332 คน และระบบต้องโทษ 16,124 คน
นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำนักงาน ป.ป.ส. เร่งดำเนินการตามมาตรการของรัฐบาล ตามประกาศ คสช.ที่ 108/2557 ที่ต้องการให้ผู้เสพผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดในระบบสมัครใจมากที่สุด เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และพร้อมให้การติดตาม ช่วยเหลือ และพัฒนาผู้ผ่านการบำบัดรักษายาเสพติดเหล่านั้น ให้กลับมามีชีวิตอยู่ในสังคมอย่างปกติสุข มีความรู้ มีทักษะอาชีพ และสามารถเลิกจากยาเสพติดได้อย่างเด็ดขาดโดยไม่ย้อนกลับไปเสพซ้ำอีก สำหรับผู้เสพผู้ติดยาเสพติดที่ต้องการเลิกหรือต้องการเข้ารับการบำบัด รักษายาเสพติดในระบบสมัครใจ หรือผู้ปกครองคนใกล้ชิดที่ต้องการปรึกษาเรื่องการบำบัดรักษายาเสพติดได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งทั่วประเทศ หรือเข้ามาปรึกษาได้ที่สำนักงาน ป.ป.ส. ส่วนกลาง และ ปปส.ภาค ทุกแห่ง อยากฝากถึงประชาชนทั่วไปให้มองผู้เสพเป็นเหมือนผู้ป่วยที่ต้องการการรักษาโดยเร่งด่วนก่อนที่จะสายเกินไป และควรให้โอกาสผู้ที่ผ่านการบำบัดรักษาได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุข เพราะผู้ผ่านการบำบัดรักษาเหล่านี้ ก็เป็นเหมือนคนปกติทั่วไปที่หลงผิด และต้องการโอกาสกลับคืนสู่สังคม และฝากถึงผู้ที่ยังเสพติดยาเสพติดอยู่ว่า อนาคตที่ดียังมีรออยู่เสมอสำหรับผู้กลับใจ สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวคุณ ไม่มีใครบังคับให้คุณเลิกได้นอกจากตัวคุณเอง”