กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--ไนน์ตี้ไนน์ คอมมิวนิเคชั่น เอเจนซี่
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ บัตรเครดิตยูโอบี เลดี้ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) นำผู้หญิงทำงาน ครอบครัวและกลุ่มเพื่อนท่องเที่ยวพร้อมเรียนรู้ความเป็นไทย ในโครงการ เลดี้ เจอร์นีย์ 2558 (Lady Journey 2015) “เรียนรู้ภูมิปัญญาไทยสู่วิถีไทย” กับเส้นทางท่องเที่ยว จังหวัดกาญจนบุรี “วิถีไทย – วิถีข้าวไทย”วันที่ 21-23 สิงหาคม 2558
นางภัทรพร สิทธิวนิช ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)กล่าวว่า เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดกาญจนบุรี หลายคนอาจจะนึกถึงเส้นทางรถไฟสายมรณะ สวนผึ้ง สะพานมอญสังขละบุรี ความจริงแล้วจังหวัดกาญจนบุรียังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ วัฒนธรรม ซึ่ง ททท. ในฐานะหน่วยส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ จึงได้ร่วมกับ บัตรเครดิตยูโอบี เลดี้ จัดโครงการ เลดี้ เจอร์นีย์ 2558 (Lady Journey 2015) ภายใต้แนวคิด “เรียนรู้ภูมิปัญญาไทยสู่วิถีไทย” เพื่อสนับสนุนกลุ่มสาวๆ วัยทำงาน คู่แม่ลูก คู่เพื่อน คู่พี่น้อง ออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศให้มากขึ้น พร้อมเรียนรู้วิถีไทย ภูมิปัญญาไทยของท้องถิ่นนั้นๆ โดยจังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดทางภาคตะวันออกที่เป็นแหล่งปลูกข้าว และแหล่งการเกษตรที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศ ซึ่งเราจะพาสาวๆ ไปท่องเที่ยวกาญจนบุรีภายใต้แนวคิด “วิถีไทย – วิถีข้าวไทย” เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักกาญจนบุรีในมุมที่แตกต่างไปจากเคย
นายยุทธชัย เตยะราชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี กล่าวว่า ธนาคารยูโอบี โดย บัตรเครดิตยูโอบี เลดี้ ต้องการสนับสนุนโครงการดีๆ ให้ผู้หญิงยุคใหม่ที่รักอิสระได้เดินทางท่องเที่ยว พักผ่อนในเมืองไทย ได้เรียนรู้ภูมิปัญญาไทย ในแบบวิถีไทยที่ทางโครงการได้จัดขึ้น เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย และบัตรเครดิต ยูโอบี เลดี้ ก็พร้อมที่จะเป็นเพื่อนร่วมเดินทางไปกับสาวๆ เพื่อให้ความสะดวกในทุกการใช้จ่ายเป็นเรื่องง่ายในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยอีกด้วย
เลดี้ เจอร์นีย์ 2558 (Lady Journey 2015) “เรียนรู้ภูมิปัญญาไทย สู่วิถีไทย” กับเส้นทางท่องเที่ยว จังหวัดกาญจนบุรี “วิถีไทย – วิถีข้าวไทย” ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน วันแรกไปเรียนรู้ตำนานวิถีข้าวไทยกับวิสาหกิจชุมชน กลุ่มสตรีอาสาพัฒนาเกษตรกรทุ่งสมอ ที่จะทำให้รู้ถึงความเป็นมาของข้าวไทย ที่มีหลากหลายสายพันธุ์ที่ปลูกในจังหวัดกาญจนบุรี อาทิ ข้าวกล้องหอมมะลิแดง ข้าวหอมนิล ข้าวหอมมะลินาปี ข้าวหอมมะลิมันปู ข้าวไรท์เบอรี่ หรือการทำจมูกข้าวกล้องหอมมะลิ การแปรรูปสินค้าจากข้าว
ตกบ่ายออกเดินทางไปสักการะ พระบรมราชานุเสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ เจดีย์ยุทธหัตถี ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ของไทยและเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ทำสงครามยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชาของพม่า และนำท่านสัมผัสวิถี ชุมชนบ้านหนองขาว เรียนรู้วิถีข้าวไทย การทำพิธีขวัญข้าว ชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ชมการสาธิตการทำข้าวเกรียบปากว่าว และเรียนรู้การทำข้าวมัดใต้
วันที่2 เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงที่ ศูนย์กสิกรรมท่ามะขาม เรียนรู้เรื่องสมุนไพรในแปลงเกษตร การปลูกผักเกษตรอินทรีย์ และการเลี้ยงหมูหลุม การทำปุ๋ยชีวภาพ น้ำส้มควันไม้ เป็นต้น
สักการะเกจิดัง หลวงพ่อลำใย ปิยวัณโณ หรือ พระมงคลวิทธิ แห่งวัดทุ่งลาดหญ้า และเดินทางไปย้อนรอยอดีตความเสียสละของทหารไทย ณ กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ค่ายแห่งนี้ถูกจัดตั้งขึ้นในสมัยสงครามเวียดนาม และได้สร้างชื่อเสียงในการรบต่างแดนเป็นอย่างมาก จนได้สมญานามว่า “กองพลเสือดำ” ภายในค่าย สุรสีห์นั้นมีสถานที่และกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว อาทิ พิพิธภัณฑ์ทหารผ่านศึกเวียดนาม โดยภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ได้มีการถ่ายทอดเรื่องราวของสงครามเวียดนาม อีกทั้งประวัติ และผลงานของ กองกำลังทหารไทยที่ร่วมรบในสงครามเวียดนาม เสาเกียรติภูมิ พล.ร.9 ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยว หรือผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาได้รับรู้เกียรติประวัติ สถานที่ในอดีตที่ กองพลทหารราบที่ 9 ได้ไปเหยียบ และยังสร้างชื่อเสียงกลับมาสู่หน่วยเป็นอันมากอีกด้วย เสาเกียรติภูมิ พล.ร.9 เป็นเสาไม้ธรรมชาติ (ต้นตะเคียน) ขนาดมากกว่า 1 คนโอบเล็กน้อย มีความสูงประมาณ 11 เมตร แต่ฝังไว้ใต้ดินความลึกประมาณ 2 เมตร ด้านบนสุดของเสา มีหมวกเหล็ก (จำลอง) สีพรางคลุมด้วยตาข่ายพร้อมยางรัดขอบหมวกและสายรัดคางพร้อมทั้ง ป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้า ภายในป้ายจะบอก ปี พ.ศ. หรือ ค.ศ. สถานที่ ระยะทาง และชี้ไปทิศทางที่ กองพลทหารราบที่ 9 เคยไปปรากฏกาย ณ สถานที่หรือประเทศนั้นๆ พอแดดร่มลมตก โยงยุค โยงตำนาน เข้าสู่เมืองหน้าด่าน ณ ตลาดน้ำกองถ่ายฯ ค่ายสุรสีห์ ชิล ช๊อปกระหน่ำ และเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพเพราะทุกจุดเหมาะกับการเก็บภาพได้อย่างเบิกบานใจ
วันสุดท้ายเดินทางสู่วัดทัพศิลา ชมสิ่งมหัศจรรย์ที่ 2 ของกาญจนบุรี ที่วัดทัพศิลา ภายใต้ศาลาแปดเหลี่ยม มีกลุ่มหินที่รวมตัวกันเหมือนช้างขนาดเท่าตัวจริง จำนวน 9 เชือก หินบางก้อนโดยเฉพาะก้อนใหญ่ที่สุดดูคล้ายช้างที่อยู่ในท่าคุกเข่า เหมือนถูกฝังครึ่งตัวอยู่ใต้พื้นดิน ซึ่งชาวบ้านขนานนามว่า “เทพช้างทัพศิลา” และมีความเชื่อว่านี่คือ กลุ่มช้างศึกที่เสียชีวิตระหว่างการรบในศึกหงสา
ส่งท้ายก่อนกลับให้ได้ช้อปสินค้าของฝาก ณ โรงงานวุ้นเส้นท่าเรือ อาทิ วุ้นเส้นท่าเรือ ตะโก้กระทิสด วุ้นซาหริ่ม วุ้นมะพร้าว ทองม้วนกรอบและอื่น ๆ อีกมากมาย ก่อนเดินทางกลับสู่กรุงเทพโดยสวัสดิภาพ