กรุงเทพฯ--2 ก.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ. ยูเอซี โกลบอล หรือ UAC เผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2558 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 523.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.32 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 23.06 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 498% จากงวดเดียวกันปีก่อน หลังธุรกิจพลังงานทดแทนทยอยเดินเครื่อง และมีการทำการตลาดแบบเชิงรุกธุรกิจเทรดดิ้ง ด้านผู้บริหาร " ชัชพล ประสพโชค " กรรมการผู้จัดการ เผยครึ่งปีหลังผลงานสดใส รับโครงการโรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ (CBG 2) อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนก.ย.พร้อมแย้มเตรียมปิดดีลซื้อกิจการใหม่อีก 1 แห่ง มั่นใจทั้งปี 58 รายได้โตตามเป้า 1,500 ล้านบาท
นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำงวดไตรมาส 2/2558 สิ้นสุดวันที่ 31 มิถุนายน 2558 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 523.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.32 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ 23.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 498% จากงวดเดียวกันปีก่อน และผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก 2558 บริษัทฯมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 766.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.83 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิในงวดครึ่งปีแรก 25.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.66% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเติบโตจากโครงการต่างๆของบริษัทได้เริ่มดำเนินการได้เพิ่มขึ้น บวกกับธุรกิจเทรดดิ้งที่มีการทำการตลาดเพิ่มขึ้น
สำหรับสาเหตุที่ส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2/2558 ปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากการดำเนินธุรกิจของโครงการต่างๆได้ทยอยแล้วเสร็จ ทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้หลักจากธุรกิจเทรดดิ้งและธุรกิจการผลิตที่ได้ลงทุนไปเช่น บริษัท ยูเอซี แอดวานซ์ โพลีเมอร์ แอนด์ เคมิคัลส์ (UAPC) มีรายได้ 72.39 ล้านบาทและโรงไฟฟ้าโซลาร์รูฟอีก 2 แห่งได้เริ่มจ่ายไฟเชิงพาณิชย์แล้ว ทั้งนี้โรงผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (PPP) ก็สามารถเดินเครื่องต่อเนื่องมีความสม่ำเสมอมากขึ้นด้วย
ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก 2558 ถือว่าเป็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีของบริษัท เพราะครึ่งปีแรกมี EBITDA อยู่ที่ 76.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.73 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน แสดงถึงทิศทางที่เติบโตขึ้นอย่างมั่นคงของ UAC
กรรมการผู้จัดการ บมจ. ยูเอซี โกลบอล (UAC) กล่าวถึงทิศทางการเติบโตของธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2558 ว่าผลการดำเนินงานจะโดดเด่นต่อเนื่อง จากการปรับกลยุทธ์การขยายตลาดในธุรกิจเคมีภัณฑ์ เพื่อต่อยอดธุรกิจ หลังจากการควบรวมกิจการ UAPC และมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้า เปิดตลาดใหม่ โดยเฉพาะตลาดประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า กัมพูชา และลาว
ส่วนการดำเนินการขายไฟฟ้าในรูปแบบเชิงพาณิชย์ของโรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ โดยใช้หญ้าเนเปียร์เป็นเชื้อเพลิง ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1.5 เมกะวัตต์ ปัจจุบัน กำลังรอทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มาทดสอบระบบต่อเชื่อมCOD ซึ่งน่าจะเรียบร้อยในเดือนสิงหาคมนี้
นอกจากนี้คาดว่าในครึ่งปีหลัง 2558 จะมีความชัดเจนในเรื่องของแผนการซื้อกิจการตามนโยบายของบริษัทฯอย่างน้อยอีก 1 แห่ง ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจด้านพลังงานทดแทน เพราะบริษัทฯ ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ของธุรกิจเทรดดิ้งและธุรกิจการผลิตอยู่ที่ระดับเท่าๆกันคือ 50 : 50%
ดังนั้นจึงมั่นใจว่าเป้ารายได้ในปี 2558 ที่บริษัทฯ วางไว้ 1,500 ล้านบาท จะสามารถบรรลุได้ เพราะการเติบโตของธุรกิจการผลิตที่ทยอยเปิดดำเนินการเพิ่มขึ้น เช่น โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์รูฟ ที่ จ.สมุทรปราการ และที่ จ. สุราษฎร์ธานี รวมกำลังการผลิต 1.67MW ได้ดำเนินการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว รวมทั้งโครงการโรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ (CBG 2) ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ดำเนินการแล้วเสร็จเช่นกัน บวกกับการรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกิจการของ APC ทำให้บริษัทรับรู้รายได้ประมาณ 300 ล้านบาท