กรุงเทพฯ--2 ก.ย.--IR network
บมจ.เอสซีไอ อีเลคติค (SCI) จับมือที่ปรึกษามือเก๋า บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เดินสายโรดโชว์ 6 จังหวัดทั่วไทย ระหว่างวันที่ 7-11 ก.ย.นี้ ก่อนขายไอพีโอ 187.5 ล้านหุ้น ภายในปี 2558 มั่นใจกระแสตอบรับล้นหลาม "เกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล"มั่นใจศักยภาพเต็มเปี่ยม เตรียมลุยธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 45 MW ในไทย พร้อมขยายธุรกิจระบบจำหน่ายไฟฟ้าและเสาส่งในลาว-เมียนมาร์ ตั้งเป้ารายได้ปี"58 เติบโต 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) (SCI) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะนำ SCI เดินสายนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ใน 6 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก , เชียงใหม่ , ชลบุรี , ขอนแก่น ,หาดใหญ่ และกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 7-11 ก.ย.นี้ เพื่อให้นักลงทุนทั่วประเทศ ได้เข้าใจในพื้นฐานธุรกิจของบริษัทก่อนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 187.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท หรือคิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนของบริษัทภายหลัง IPO โดยคาดว่าจะเสนอขายหุ้นไอพีโอและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี 2558
"ธุรกิจในกลุ่มของ SCI ถือว่ามีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน ภายใต้การนำของครอบครัวพฤฒินารากรกับเพื่อนนักธุรกิจชาวฮ่องกง มีทีมผู้บริหารและพนักงานมีความรู้ความสามารถ ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมและการควบคุมคุณภาพการผลิต จากพันธมิตรญี่ปุ่น และมีโรงงานที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในส่วนของภาครัฐ และภาคเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ได้รับงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ธุรกิจของ SCI เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพในการขยายตัวได้อย่างโดดเด่นในอนาคต"นายวิชากล่าวในที่สุด
ขณะที่นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) (SCI) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโต 10% จาก 2,810.72 ล้านบาท ในปีก่อน โดยแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง จะได้รับประโยชน์จากการเปิดประมูลคลื่นความถี่ 4G และรับรู้รายได้จากจากการขยายเสาสัญญาณ 3G ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเงินที่ได้ไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน ลงทุนในโรงงานผลิตเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงและเสาโทรคมนาคมในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนกิจการ เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง และเพิ่มโอกาสในการเติบโตของบริษัทในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนลงทุนในโครงการปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้า (PDSR) เฟส 2 ในลาว มูลค่าโครงการ 67 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเริ่มต้นโครงการได้ประมาณไตรมาส 4/58 และลงทุนในโรงงานผลิตเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงและเสาโทรคมนาคมในเมียนมาร์ โดยร่วมทุนกับพันธมิตร ซึ่งมีสัดส่วนลงทุนไม่น้อยกว่า 40% มูลค่าลงทุนทั้งหมด 26 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างโรงงานได้ราวไตรมาส 1/59
ขณะเดียวกัน จะใช้เงินบางส่วนเพื่อลงทุนในโรงงานไฟฟ้าพลังงานลม ขนาด 45 เมกะวัตต์ โดยร่วมทุนกับพันธมิตรในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 30% ของมูลค่าลงทุนทั้งหมดราว 3.5-3.7 พันล้านบาท คาดว่าจะเริ่มใช้เงินทุนราวต้นปี 59
สำหรับผลการดำเนินงานของ SCI ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 55-57) บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเท่ากับ 1,443.67 ล้านบาท 2,175.81 ล้านบาท และ 2,810.72 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตในปี 56 จำนวน 50.71% เมื่อเทียบกับปี 55 และคิดเป็นอัตราการเติบโตในปี 57 จำนวน 29.18% เมื่อเทียบกับปี 56 ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิสำหรับปี 55-57 เท่ากับ 65.29 ล้านบาท 171.29 ล้านบาท และ 328.63 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนงวด 6 เดือนแรกของปี 58 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการเพิ่มขึ้น 14.91% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 155.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน