กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--สหมงคลฟิล์ม
แม้ในเรื่องจะสวมบทรุ่นพี่ปีสองจอมโหดที่พาบรรดาเฟรซชี่ปีหนึ่งมารับน้องจนเกิดเรื่องราวความสยองขวัญขึ้นแต่ในชีวิตจริงทั้งโน้ต สุดปราชญ์ อึ้งตระกูลและไผ่ ภาคย์ วรรณศิริถูกรุ่นพี่จอมซาดิสถ์ที่ชื่อว่าภาคภูมิ วงษ์จินดา ( ผู้กำกับ )บังคับให้เล่นบทอันสุดแสนจะทรหดในภาพยนตร์เรื่อง “รับน้องสยองขวัญ” โดยเฉพาะฉากที่ไผ่และโน้ตเดินข้ามสายน้ำที่เชี่ยวกรากเพื่อหาทางออกจากป่าร้างที่เต็มไปด้วยความหายนะและความตายแต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างขาของไผ่ได้เกิดไปติดที่ซอกหิน ดึงเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น เลือดจากการออกแรงดึงค่อยค่อยไหลเจิ่งนองและชิ้นส่วนของเนื้อเริ่มหลุดจากการเสียดสีของหินดูแล้วชวนสยดสยอง ฉากนี้ถ้าใครได้เห็นการถ่ายทำต้องบอกคำเดียวว่าโหดมาก เนื่องจากถ่ายทำกันตั้งแต่เช้าจนค่ำ ทั้งไผ่และโน้ตต้องเดินเท้าฝ่าสายน้ำนานกว่า 8ชั่วโมงกว่าจะได้ภาพโหดสมใจผู้กำกับแม้จะเป็นน้ำตกสายเล็กๆแต่ขอบอกว่าเชี่ยวมาก ทำเอาสองหนุ่มทรงตัวไม่อยู่ตกน้ำเปียกปอนกันทั้งคู่ ฉากนี้ผู้กำกับภาคภูมิ วงษ์จินดากล่าวว่าอุปสรรคคือเรื่องของฝนฟ้าและการแสดงเพราะว่าทั้งคู่ต้องเดินข้ามน้ำตกจริงๆ ระยะทางกว่า50 เมตรและหินก็ลื่นมาก แถมน้ำก็เชี่ยวถ้าไม่ระวังมีสิทธิ์หกล้มหัวฟาดพื้นเละเป็นลูกแตงโมอย่างแน่นอนและระหว่างการถ่ายทำก็มีฝนตกตลอดต้องรอจังหวะที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนถึงจะถ่ายได้ งานนี้ระหว่างรอฝนนักแสดงบางส่วนก็ถือโอกาสเล่นน้ำตกกันซะเลยแต่เมื่อถึงเวลาสั่งแอ็คชั่นทั้งคู่ก็ตั้งใจทำงานโดยเฉพาะไผ่ที่ต้องแสดงสีหน้าเจ็บปวด อิดโรยและหวาดผวาส่วนโน้ตก็ต้องช่วยเหลือไผ่ให้พ้นจากอันตรายแม้จะต้องรอเป็นเวลานานและกว่าจะได้ภาพที่สมใจผู้กำกับแต่ก็ไม่ได้ทำให้ไผ่และโน้ตอิดออดแต่อย่างใดกลับแสดงได้ดีจนทีมงานปรบมือให้เป็นแถวหลังจากสั่งคัท ซึ่งงานนี้หนุ่มไผ่ออกมากล่าวถึงฉากนี้ว่า
“ ฉากนี้ผมกับพี่โน้ตเหนื่อยกันมากครับแต่เราก็ตั้งใจมากด้วยเนื่องจากสถานที่ในการถ่ายทำค่อนข้างอันตรายเพราะเป็นน้ำตกและเราต้องเดินฝ่าสายน้ำเพื่อหาทางออกจากป่าร้างก้อนหินก็ลื่นมาก ตอนแรกก็ซ้อมคิวกันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่พอพี่เพื่อนสั่งแอ็คชั่นจังหวะที่เหยียบก้อนหินผมดันลื่นหัวเกือบฟาดพื้นไปแล้วครับ ทรหดมากแถมขาผมยังไปติดซอกหินจริงๆอีก ฉากนี้ต้องแสดงหลายอารมณ์มากทั้งสับสน กังวล หวาดผวาเป็นฉากที่ต่อเนื่องจากรถตกสะพานและเราเห็นเพื่อนๆรุ่นน้องต้องสังเวยชีวิตเกือบทั้งคันและยังต้องหลงทางในป่าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความตายและความสยดสยองกันสองคนอีกพูดง่ายๆว่ามองไปทางไหนก็เกิดภาพหลอนเห็นแต่เลือดหรือคนจ้องจะเอาชีวิตจนกลายเป็นอาการหวาดผวาครับแต่พอมาดูในจอมิเตอร์ก็รู้สึกพอใจ ความเครียดหายเป็นปลิดทิ้งไปเลยครับ”
รุ่นพี่ปีสองสุดโหดทั้งไผ่และโน้ตต้องเจอกับอะไรบางนั้นและฉากนี้ทั้งคู่จะเอาชีวิตออกมาจากป่าร้างที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดได้อย่างไร ติดตามชมได้ในภาพยนตร์สยองขวัญที่จะมากระตุกต่อมหวาดผวาของพวกคุณกับ “รับน้องสยองขวัญ” 10 พฤศจิกายนนี้ทุกโรงภาพยนตร์
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--