กรุงเทพฯ--4 ก.ย.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
วันนี้ (๓ ก.ย. ๕๘) เวลา ๐๘.๓๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ ๒๓๒/๕๗-๕๘ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขและป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจอายุ ๓๘ ปี ชุดเก็บวัตถุระเบิด (EOD) ถูกระเบิดที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จนร่างกายพิการ ต้องนอนอยู่บนเตียง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยพ่อ แม่ และภรรยาต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งป้อนอาหารทางสายยางผ่านช่องท้อง และต้องดูดเสมหะตลอดเวลาที่ จ.นครศรีธรรมราช ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช(พมจ.นครศรีธรรมราช) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลอย่างใกล้ชิด และกรณีอดีตนายตำรวจที่กรุงเทพฯ พิการจากอุบัติเหตุขณะปฏิบัติหน้าที่ น้อยใจชีวิตเนื่องจากหน่วยงานต้นสังกัดไร้การเหลียวแลนานกว่า ๒๕ ปีนั้น ตนได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีเด็กชาย อายุ ๑๑ ปี ไปช่วยพ่อ-แม่ดับไฟป่าแล้วถูกไฟป่าลวกบริเวณใบหน้าและทั่วร่างกาย ขาทั้งสองข้างไม่สามารถเหยียดจนสุดได้ ต้องงอขาตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้ต้องนอนพักรักษาตัวที่บ้านใน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เนื่องจากครอบครัวฐานะยากจน ไม่มีเงินรักษาตัว และกรณีนักศึกษาสาวอายุ ๒๐ ปี ประสบอุบัติเหตุถูกรถชน จนอาการสาหัสไม่รู้สึกตัว ซึ่งแม่ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และต้องรับภาระเลี้ยงดูสามีป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ทำงานไม่ได้ รวมทั้งต้องเลี้ยงลูกอีก ๒ คน ด้วยการรับจ้างทั่วไป ที่ จ.พิษณุโลกนั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุโขทัย (พมจ.สุโขทัย) และ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก (พมจ.พิษณุโลก) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งช่วยเหลือทั้งสองครอบครัวในด้านต่างๆ ในระยะยาวต่อไป