กรุงเทพฯ--4 ก.ย.--คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
· ขยายการลงทุนเพิ่มอีกกว่าหนี่งพันล้านบาท
· เริ่มส่งออก บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด จากโรงงานจังหวัดระยอง ไปยังประเทศจีน
· ประเทศไทยเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวในโลกที่ผลิตยนตรกรรมหรู ทั้ง 3 แบรนด์ ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย นำโดย มร.เจฟฟรีย์ กอดิอาโน กรรมการผู้จัดการ เฉลิมฉลองความสำเร็จของการดำเนินงานด้านการผลิตครบรอบ 15 ปี ของโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สมชาย หาญหิรัญ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในงาน พร้อมแขกผู้มีเกียรติ คู่ค้าทางธุรกิจ และ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในภาคธุรกิจกับบีเอ็มดับเบิลยู เข้าร่วมเฉลิมฉลองอีกหนึ่งก้าวความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แสดงถึงความมุ่งมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อประเทศไทยในฐานะที่เป็นตลาดและหนึ่งในศูนย์กลางการผลิต
มร. เยอร์เก้น ไมดัล รองประธานบริหารอาวุโส ฝ่ายโลจิสติกส์การผลิต บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้เดินทางมาจากสำนักงานใหญ่ที่มิวนิค เพื่อร่วมฉลองวาระสำคัญครั้งนี้ เปิดเผยว่า "โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู จังหวัดระยอง และประเทศไทย มีบทบาทที่สำคัญมากต่อกลยุทธ์การขายของเรา รวมถึงการมีส่วนร่วมของเราในตลาดภูมิภาคอาเซียนและเอเชีย ในปี 2558 นี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ได้เริ่มต้นขยายการส่งออกของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สู่ประเทศจีน นอกเหนือจากประเทศมาเลเซีย และจะขยาย การส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ภายในภูมิภาคอาเซียนต่อไป
"นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับผมที่จะประกาศในวันนี้ว่า เราได้ลงทุนอีก 1.1 พันล้านบาทในการขยายโรงงานที่ระยองแห่งนี้ เพิ่มเติมจากยอดเงินลงทุนที่ผ่านมาทั้งสิ้นกว่า 2.6 พันล้านบาท การขยายในครั้งนี้หมายถึงการเพิ่มพื้นที่ในโรงงานสำหรับการฝึกอบรมด้านอาชีวศึกษา พื้นที่สำหรับการทดสอบเครื่องยนต์ต่างๆ รวมถึงศูนย์วิเคราะห์ด้วย ส่งผลให้โรงงานที่จังหวัดระยองนี้จะสามารถขยายกำลังการผลิตได้สูงถึง 20,000 คันต่อปี สำหรับรถยนต์ และ 10,000 คันต่อปีสำหรับมอเตอร์ไซค์"
มร. เจฟฟรีย์ กอดิอาโน กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย กล่าวว่า "นับเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาประวัติศาสตร์อย่างแท้จริงสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ด้วยความมุ่งมั่นของทีมงานทุกคนที่โรงงานในประเทศไทยแห่งนี้ ทำให้เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ร่วมมือกันสร้างการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้กับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มิวนิค มาโดยตลอด นอกจากนั้น ด้วยทักษะ ประสบการณ์และฝีมือของพนักงานของเรา ช่วยให้เราสามารถสร้างคุณภาพที่เหนือกว่าสู่ผลิตภัณฑ์ชั้นยอด และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าของเราได้เป็นอย่างดี"
ในโอกาสพิเศษครั้งนี้ ดร. มาร์ค ซิลเลอมันน์ ประธานฝ่ายการผลิต บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด กล่าวว่า "โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู จังหวัดระยอง มีความโดดเด่นเฉพาะตัวในด้านความหลากหลายของการผลิต และนอกเหนือจากบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด รุ่นต่างๆ ที่มีในปัจจุบัน ซึ่งได้รับการประกอบที่โรงงานแห่งนี้ เรามีความภาคภูมิใจที่จะประกาศว่า สุดยอดมอเตอร์ไซค์สายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ตบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR และ เนเก็ดไบค์บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R จะเป็นมอเตอร์ไซค์สายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ต 2 รุ่นแรกที่จะถูกประกอบขึ้นในประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลให้มีมอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดทั้งหมด 8 รุ่นที่ประกอบขึ้นในประเทศไทย นี่คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์ของ 15 ปีแห่งความสำเร็จของเรา"
ดร.สมชาย หาญหิรัญ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ร่วมแสดงความยินดีและกล่าวถึงความสำเร็จ ในครั้งนี้ว่า"กระทรวงอุตสาหกรรมได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มายาวนานหลายปี ผ่านการสนับสนุนทั้งการขยายการดำเนินงาน และแสวงหาโอกาสที่จะพัฒนาธุรกิจของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในประเทศไทย และเพื่อให้มั่นใจในการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ถูกนำมาประกอบในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องโดยฝีมือของทีมช่างเทคนิคทั้งชาวไทยและชาวเยอรมัน สิ่งเหล่านี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือที่แน่นแฟ้นระหว่างประเทศไทยและบีเอ็มดับเบิลยู และเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมแสดงความยินดีแก่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ในโอกาสครบรอบ 15 ปีนี้"
นอกจากนี้ ยังได้มีการวางแผนลงทุนเพิ่มเติมด้านเงินทุนและทรัพยากรบุคคลสำหรับโรงงานจังหวัดระยอง โดย มร.กอดิอาโน กล่าวว่า "ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะประกาศให้ทราบว่า เราได้เริ่มต้นโครงการศึกษาระบบทวิภาคี หรือ Dual Excellence in Education ภายใต้ความร่วมมือกับวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ ใน การฝึกอบรมในระบบทวิภาคีให้แก่นักเรียนอาชีวศึกษา ด้านเมคคาทรอนิกส์ เริ่มในเดือนสิงหาคม 2558 นี้ และในปี 2559 เราจะขยายความร่วมมือในการศึกษาและจัดฝึกอบรมด้านด้านเมคคาทรอนิกส์ ให้แก่นักเรียนอาชีวศึกษาระดับ ปวส. จากโรงเรียนจิตรลดา (สายวิชาชีพ) ทั้งหมดนี้เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น หนึ่งในศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ของภูมิภาคอาเซียน"
มร. ไมดัล กล่าวปิดท้ายว่า "ความมุ่งมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงบทบาทอันสำคัญยิ่งสำหรับโรงงานของเราที่จังหวัดระยอง และประเทศไทย ที่มีต่อบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เราเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยและโรงงานของเราที่จังหวัดระยองคือ รากฐานอันมั่นคงของเครือข่ายการผลิต ของเรา และเรามุ่งหวังที่จะสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องอีกต่อไปในอนาคต"