KTAMขาย3กองทุนตราสารหนี้ชู6เดือน1.95%ต่อปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 8, 2015 13:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--KTAM นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ บริษัทเปิดจำหน่าย 3 กองทุนตราสารหนี้ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีช่วงอายุของกองทุนที่แตกต่างกัน เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกลงทุนตามความเหมาะสมซึ่ง โดยจะเสนอขายในวันที่ 9-15 กันยายน 2558 ประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 31( KTFFE31 ) อายุ 6 เดือน โดยกองทุนจะเน้นลงทุนใน MTN ที่ออกโดย Banco Santander (Brasil ) , ออกโดย Banco Latinoamericano de Comercio Ex terior , S.A. , ออกโดย Industral and Commercial Bank of CHINA ( Asia ) Ltd. , เงินฝากประจำ Bank of China ( Macau ) , Turkiye Garanti Bankasi A.S และ Yapi Kradi Bankasi ผลตอบแทนประมาณ 1.95% ต่อปี ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 41 ( KTFFE41 ) เสนอขาย 9 -15 กันยายน 2558 อายุ 3 เดือน เน้นลงทุนใน MTN ที่ออกโดย Banco Santander ( Brasil ) SA , ออกโดย Banco Latinoamercano de Comercio Exterior , S..A. เงินฝากประจำ Bank of China ( Macau ) , TUrkiye Garanti Bankasi A.S. และ Yapi Kradi Bankasi ในสัดส่วน 84 % ของมูลคาทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประเภทตั๋วแลกเงิน ของ บมจ.บัตรกรุงไทย ผลตอบแทนประมาณ 1.75%ต่อปี นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ ( Roll Over ) ของกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 3เดือน3 (KTSIV3M3) เสนอขายถึงวันที่ 11 กันยายน 2558 อายุ 3 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน ประมาณ 78% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนใน เงินฝาก ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ผลตอบแทนประมาณ 1.50% ต่อปี ส่วนผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวขึ้นลงในช่วงแคบๆ โดยความต้องการลงทุนในตราสารหนี้ปรับตัวลดลงจากความกังวลต่อการย้ายเงินออกนอกประเทศของต่างชาติถึงแม้ปัจจัยด้านเงินเฟ้อและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ยังไม่เอื้อต่อการปรับขึ้นอัตราผลตอบแทนก็ตาม ทางด้านอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุตามแรงซื้อจากความต้องการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังตัวเลขเศรษฐกิจภาคการผลิตของจีนออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ ทำให้ตลาดกลับมากังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับการที่ ECB มีแนวโน้มที่จะทำ QE เพิ่มถ้าจำเป็นและตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนสิงหาคมของสหรัฐอเมริกาที่ออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้ US Treasury เป็นที่สนใจของนักลงทุน โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง -1 bps. มาอยู่ที่ 0.71% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง -5 bps. มาอยู่ที่ 1.47% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง -6 bps.มาอยู่ที่ 2.13% ต่อปี สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้จะเป็นทิศทางเศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนของช่วงเวลาที่ FED จะเริ่มปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งอาจส่งผลต่อความผันผวนของตลาดและต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ