THE LOBSTER รักแบบเหงา ๆ ของคนที่ไม่อยากโสด

ข่าวบันเทิง Wednesday September 9, 2015 08:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ก.ย.--สหมงคลฟิล์ม 20 เกร็ดน่ารู้ก่อนไปดูหนัง 1.The Lobster ได้รับเลือกฉายในสายประกวดหลักที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ปี 2015 และชนะรางวัลจูรี่ไพรซ์ 2.เหตุการณ์ใน The Lobster เกิดขึ้นในเมืองอนาคตกึ่งสมมติ กฎเหล็กของเมืองแห่งนี้ ห้ามประชากรเป็นโสดเด็ดขาด ถ้ายังหาคู่ไม่ได้ คนโสดเหล่านั้นต้องกลายร่างเป็นสัตว์และอาศัยอยู่ในป่า 3.โคลิน ฟาร์เรลล์และราเชล ไวซ์ ตอบตกลงรับเล่นทันทีที่อ่านบทจบ ฟาร์เรลล์เล่าว่า เขาเหวอรับประทานไปเลยตอนอ่านบท และรีบโทรหาผู้กำกับยอร์กอส ลานธิมอส ผ่านสไกป์ เพื่อบอกว่า "ผมต้องการเล่นหนังเรื่องนี้" 4.ไอเดียตั้งต้นในการเขียนบทหนังของยอร์กอส ลานธิมอส และมือเขียนบทคู่ใจ เอฟธิมิส ฟิลิปปู คือการตั้งคำถามว่า "ทำไมคนเราถึงกลัวการอยู่เป็นโสด" 5.The Lobster เป็นผลงานลำดับที่ 4 ของ ยอร์กอส ลานธิมอส ผู้กำกับชาวกรีกวัย 42 ปี ผลงานสร้างชื่อของเขาคือหนังสุดอื้อฉาวเรื่อง Dogtooth ซึ่งเคยคว้ารางวัลจากเมืองคานส์ และเข้าชิงออสการ์หนังภาษาต่างประเทศมาแล้ว 6.The Lobster เป็นหนังพูดภาษาอังกฤษเรื่องแรกของ ยอร์กอส ลานธิมอส 7.หลังจากทำหนังในประเทศกรีซ และสะสมชื่อเสียงในระดับนานาชาติมาพอสมควร ยอร์กอส ลานธิมอส คิดว่าการทำหนังในบ้านเกิดมีข้อจำกัดหลายอย่าง และเขาอยากทดลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ท้าทายบ้าง เขาตัดสินใจย้ายไปอยู่อังกฤษ และใช้เวลาเกือบ 4 ปี กว่าโปรเจคต์ The Lobster จะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา 8.วิธีการเก็บข้อมูลเพื่อเขียนบทหนัง เอฟธิมิส ฟิลิปปูเล่าว่า "ก็สังเกตดูจากเพื่อนๆ นี่แหละ พวกเขากลัวการขึ้นคาน กลัวการแก่ตายไปคนเดียว พวกเขามองคนที่อยู่เป็นโสดว่าเป็นคนประหลาด และพวกเขาจะยอมทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ตัวเองโสด" 9.หนังถ่ายทำโดยใช้แสงธรรมชาติทั้งหมด ยกเว้นฉากกลางคืน และนักแสดงไม่มีใครแต่งหน้าเลย 10.วิธีการถ่ายทำนั้น ยอร์กอส ลานธิมอส ถ่ายเทคแรกเพื่อให้นักแสดงซ้อม และถ่ายเทคต่อมาเพื่อเอาจริง แต่บางครั้ง เขาก็เอาตั้งแต่เทคแรก ไม่มีการถ่ายซ้ำหลายเทค เพราะเขาต้องการความสดในการแสดง 11.เพื่อเตรียมตัวในการมารับบท เดวิด พ่อม่ายเมียทิ้งใน The Lobster โคลิน ฟาร์เรลล์ จึงเตรียมแปลงกายจากหนุ่มหล่อเจ้าชู้ เป็นหนุ่มใหญ่ขี้เหงา และเพิ่มน้ำหนังตัวเองขึ้นกว่าเดิม 40 ปอนด์ 12.ราเชล ไวซ์บอกว่า สิ่งที่เธอชอบมากๆ ในหนังเรื่อง The Lobster ก็คือ มันเป็นหนัง High-concept ที่ Low-SpecialFX กล่าวคือ ถึงแม้พล็อตจะหวือหวาจินตนาการล้ำมากแค่ไหน แต่สิ่งพิสดารพันลึกที่คุณได้เห็นในหนังมันคือธรรมชาติ คือของจริงทั้งหมด 13.หนังถ่ายเรียงลำดับตามเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนหลังจากต้นจนจบ นักแสดงที่เป็นพวก "อยู่ในป่า" ก็จะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้านักแสดงที่เป็นพวก "อยู่ในโรงแรม" เลย -- นักแสดงทุกคนรู้ เท่าๆ กับที่ตัวละครของตนเองรู้ 14.พระเอกหนุ่ม เบน วิชอว์ (Perfume, Skyfall) เล่าว่า การทำงานใน The Lobster นั้นแปลกสำหรับเขามากทีเดียว เพราะยอร์กอส ลานธิมอส จะไม่บอกข้อมูลใดๆ ให้เขารู้เลย "ตัวละครทุกตัวไม่รู้อะไรเลย เพราะฉะนั้น พวกเราห้ามคิดอะไรไปไกลเกินกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า" 15.ข้อดีของการสร้างโลกสมมติขึ้นมาในหนัง ทำให้ยอร์กอส ลานธิมอส ไม่ต้องสนใจกับความสมจริงมากนัก เขาจึงสามารถเลือกนักแสดงโดยไม่ต้องอิงเชื้อชาติ "วิธีการเลือกนักแสดงของผมก็คือ ผมอยากร่วมงานกับใคร ผมก็ติดต่อคนนั้น" 16.เนื่องจาก The Lobster มีนักแสดงหลากหลายเชื้อชาติมาร่วมงานกัน (อังกฤษ, อเมริกัน, กรีก, ไอริช, ฝรั่งเศส ฯลฯ) ยอร์กอส ลานธิมอส ปล่อยให้นักแสดงพูดภาษาอังกฤษสำเนียงถนัดของตัวเอง เพราะเขาคิดว่า "มันเป็นโลกสมมติ คุณจะพูดอย่างไรก็ได้" 17.คนดูหลายคนคิดว่า The Lobster นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากซิตคอมชื่อดังเรื่อง Friends (ในตอนหนึ่งของซิตคอมเรื่องนี้ ฟีบี้ ตัวละครหลักของเรื่องบอกว่า กุ้งล็อบสเตอร์เป็นสัตว์ที่ใช้ชีวิตแบบผัวเดียวเมียเดียว ไม่เหมือนสัตว์อื่นๆ) ผู้กำกับ ยอร์กอส ลานธิมอส บอกว่า เขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ซิตคอมเรื่องนี้ แต่ตอนเขียนบท The Lobster เขาไม่ได้คิดถึงเรื่อง Friends เลย 18. หนังเรื่องนี้ถ่ายทำในโรงแรมตากอากาศแห่งหนึ่งในไอร์แลนด์ ฉากในป่าก็ถ่ายในป่าที่ไอร์แลนด์ โดยยอร์กอส ลานธิมอสบอกว่า ภูมิอากาศที่ไอร์แลนด์ทั้งหนาวทั้งชื้นและดูเหงา นี่เป็นการถ่ายหนังนอกประเทศเป็นครั้งแรกของเขา 19.นอกเหนือจากรางวัลในสายหลัก The Lobster ยังได้รับรางวัลพิเศษจากสาย Queer Palm (สายหนังเกย์และเลสเบี้ยน) ในฐานะที่หนังเล่าถึงความหลากหลายเรื่องเพศและความรัก 20.นักวิจารณ์หลายสำนักยกให้ The Lobster เป็นหนังรักที่เหงาและแปลกที่สุดแห่งปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ