กรุงเทพฯ--9 ก.ย.--อาร์เอส
ทำงานแล้ว ไม่ได้เงิน เป็นใครก็ไม่ทน และยิ่งในวงการบันเทิงบ้านเรา เห็นดาราหลายคนโดนเบี้ยวค่าตัว ล่าสุดพระเอกหนุ่มมาดเซอร์ "แบงค์-ปวริศร์ มงคลพิสิฐ" จ่อคิวขึ้นศาลกรณีนี้อีกราย หลังจากโดนเบี้ยวค่าตัวในการทำพิธีกรรายการท่องเที่ยวมาเป็นระยะเวลา"ครึ่งปี" ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดใจในรายการ "ข่าวช่อง 2" ทาง "ช่อง 2" ข่าวลึก บันเทิงร้อน ถึงเรื่องดังกล่าวว่า เตรียมหอบหลักฐานขึ้นศาลวันที่ 1 ตุลาคมนี้
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดยนโกงค่าตัว ?
"ถ้าจะนับจริงๆ ก็มีหนังก่อนหน้านี้ 2 เรื่อง แล้วก็รายการท่องเที่ยว ประมาณ 5 ครั้ง แล้ว"
ระยะเวลานานแค่ไหนแล้ว ?
"หนังอันแรกนี่นานมากเหมือนกันครับ จริงๆ อันนั้นมีสัญญาด้วยนะครับ แต่ว่าบางครั้งคือเราไม่อยากไปขึ้นโรงขึ้นศาลด้วย อันนั้นน่าจะมาร 6-7 ปีแล้วครับผม เหมือนจ่ายมาส่วนหนึ่ง แล้วก็ยังมีอีกส่วนหนึ่ง มีสัญญาครบด้วยแต่เราก็ไม่อะไร"
หนังอีกเรื่องละ ?
"หนังอันล่าสุดอันนี้นิดหน่อยครับ คือเราก็รู้จักกันดีด้วย ทางพี่ผู้กำกับฯ หนังก็อาจจะทุนน้อยด้วยก็ไม่ได้ตังค์ ตอนแรกก็คุยกันช่วยๆ กัน ได้ไม่เยอะเท่าไหร่ พอหนังมันไม่ได้ตังค์ด้วยเราก็ไม่อยากจะไปทวง คือ ออาจจะให้ด้วยใจด้วยมากกว่า"
จิตใจดีเนาะ ?
"ผมว่าถ้าชาติหน้าอาจจะได้บุญเยอะครับ(หัวเราะ)"
ทำไมปล่อยเวลาให้มันผ่านมาขนาดนี้ แล้วยังกล้ารับงานต่ออีก ?
"บางครั้งเราอาจจะเป็นคนเหมือนกับเชื่อใจเกินไป ใจอ่อนเกินไปอย่างนี้ครับผม บางครั้งเราคิดว่าเรารู้จักกันเคยเห็นกันมาตั้งนาน ยกตัวอย่างอย่างหนังเรื่องแรกที่ผ่านมา6-7 ปีเนี่ย ถ้าผมแข็งซะหน่อยเนี่ย ถ้าผมใจแข็งซะหน่อย เพราะว่าเขาทำมาแล้วครั้งหนึ่ง คือหนังเนี่ยเขาเบี้ยวมาแล้วครั้งหนึ่ง"
เขาโกงคนอื่นมาแล้วครั้งหนึ่ง ?
"ใช่ครับ โกงเราด้วยจนมานั่งคุยกันกับเราว่าได้ทุนมาแล้วมาต่อกันดีกว่า มาทำต่ออีกเรื่องหนึ่ง เราก็ใจอ่อน"
ก่อนทำอันใหม่ อันเก่าได้หรือยัง ?
"ยังครับ เหมือนคุยแบบว่าอันนี้น่าจะอย่างนี้นะ บางครั้งเขาเป็นคนพูดจาดี พูดจาหว่านล้อมดี ก็โอเคเราก็ยอมทำต่อ อันนี้หมายถึงเคสแรกเลยนะครับ ผมดันใจอ่อนอันหนึ่ง โดยมีนักแสดงอีกท่านหนึ่งคือเป็นเพื่อนกัน แต่ขอไม่เอ่ยนามดีกว่า ถ้าเกิดเราใจแข็ง อย่างวันที่จะปิดกล้อง คิวสุดท้ายเขาก็อเงโน้นอ้างนี่ ผมต้องเข้ากับนางเอกคนหนึ่ง เขาก็ไม่มาถ้าเงินยังไม่ได้ เขากเข้าใจไอ้เงินก้อนสุดท้ายเขาแข็งครั้งแรกไปแล้วว่าเขาโดนอย่างนี้แล้ว ผมก็แบบทำไมยังไม่แต่ พอคุยกันเขาบอกรอโอนก่อนดีกว่า เราเคยพลาดมาแล้ว เคยโดนมาแล้ว อันนั้นก็เป็นเคสแรกสุดที่โดนมา"
มีอีก 3 รายการ ที่ยังไม่ได้เงิน รายละเอียดเป็นยังไง ?
"รายการอันนี้ก็ค้างไม่เยอะนะครับ เป็นรายการท่องเที่ยวเหมือนกัน ค้างอยู่ไม่กี่เทป ไม่มากเท่าไหร่ คือเราก็ไปทวง ไปคุยกับผู้บริหารที่ออฟฟิศ เขาก็บอกว่าอีกซักพักก็อาจจะจ่ายแล้ว ก็รอหน่อย เราก็รอไปเดือนนึง จนในที่สุดเขาก็โดนจับไปก่อน โดยที่เขาก็ยังไม่ได้เคลียร์ (คนจ่ายตังก์โดนจับก่อน) ใช่ครับ ก็อาจจะโดนจับคดีอื่น ถ้าจะตามก็ต้องไปแจ้งความ พอมาอ่านข่าวแล้วโอ้โหคนที่โดนเยอะกว่าเราอีก หลาย 10 เท่า ก็ปล่อยไป ใครทำยังไงก็ได้อย่างนั้นดีกว่า"
ปกติทำสัญญาในการจ่างเงินยังไง ?
"ส่วนใหญ่ก็พอเทปออนแอร์ก็จะจ่ายกัน อันนี้ด้วยความเข้าใจว่าอาจจะทำงานด้วยก็คือมันก็เริ่มพอกมาเรื่อยๆ"
เห็นว่าทำมา 10 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้มีปัญหาหรือเปล่า ?
"ไม่เคยมีปัญหาครับ อันนี้เหลือประมาณ 6 เดือน"
ที่ไม่จ่ายเขาบอกว่าอะไร ?
"อันนี้ที่ฟังมา อาจจะมีปัญหาในเรื่องของทางบริษัทเอง ทางสปอนเซอร์เอง อันนี้ก็เป็นหน้าที่ของทางนั้นนะครับ ในเรื่องของคดีความก็เป็นเรื่องของทนายความที่จะพูดเรื่องรายละเอียดกัน"
เราไม่ได้ค่าตัว แล้วทีมงานล่ะ ได้เงินกันไหม ?
"ส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้นะครับ(หัวเราะ)"
คนอื่นมีฟ้องร้องไหม ได้คุยกันบ้างรึป่าว ?
"ได้คุยนะครับ คืออย่างพี่ที่เป็นโปรดิวเซอร์แล้วก็ทีมกล้อง ตอนแรกเราก็ไปทวงด้วยกันที่ออฟฟิศ แต่พอเห็นข่าวหนังสือพิมพ์ ผมเห็นข่าวก่อน ผมก็โทรไปบอกแก แกก็ช็อคเหมือนกันเพราะของแกนี่คือทั้งผลิตด้วย โปรดักชั่นเลย ค่ากล้องค่าอะไรมันเยอะกว่าผมอีก อันนั้นก็น่าสงสารพอสมควร"
ก่อนฟ้องมีการคุยกับเขาไหม ?
"ก็คุยนะครับ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ก็ให้เป็นมทางกฏหมายดีกว่า"
วันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะไปขึ้นศาล ?
"อันนี้ฟ้องร้องในกรณีของการที่เราถ่ายรายการแล้ว เทปออนแอร์แล้ว แต่ว่าเรายังไม่ได้ค่าจ้างครับ"
คิดว่าเราชนะไหมดีนี้ ?
"ผมว่าในเรื่องของความเป็นจริง ความถูกต้อง ผมว่าถ้าโลกนี้ยังมีความยุติธรรมธรรม ผมว่าผม พูดตรงๆ ผมไม่ชอบมีข่าว ผมชอบอยู่นิ่งๆ ตามสไตล์ผม ไม่ค่อยยุ่งกับเรื่องข่าวเรื่องอะไร นานๆ ทีจะออกมาแบบนี้ครับ แต่อันนี้มันเป็นสิทธิ์ที่เราทำงานแล้ว ถ้าความยุติธรรมมี แล้วเป็นไปตามความเป็นจริงผมว่าน่าจะชนะ"
แล้วทำไมฟ้องแค่เงินค่ารายการล่ะ ของหนังที่ค้างอยู่ไม่ฟ้องด้วย ?
"ภาพยนตร์มันอาจจะนิดหน่อยครับ เราก็เคยคุยกับพี่เขา ก็เข้าใจนะ เขาบอกว่า... มันก็ลำบากใจนะ คือเขาก้ไม่ได้มาแบบเริ่ดหรูอลังการ ชีวิตเขาก็สมถะมาตั้งนานแล้วกว่าจะปั้นหนังได้เรื่องหนึ่ง ผมก็เออมันก็อาจจะไม่ได้จริงไ แล้วแต่ก็บอกว่าถ้าเผื่อมีโอกาสตรงนี้แล้วพี่ไอ้นั่นได้(จ่าย) พี่ไม่ลืมนะ เผื่อพี่หมุนได้ เขาก็บอกอันนี้ก็เข้าใจ"
อาจจะเป็นเพราะเราใจอ่อนแบบนี้เลยโดนโกงตั้ง 5 เคส ?
"อาจจะด้วยใจอ่อนด้วย ถ้าคิดในแง่หนึ่งในเรื่องของเวรกรรม ผมเชื่อเรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วยังไงก็ได้ชั่วอยู่แล้ว เราไม่ได้ทำชาตินี้ แต่ชาติที่แล้วเราอาจจะเคยไปเอาของเขามา"