กรุงเทพฯ--11 ก.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือน 9 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกในระยะนี้ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น ทำให้ลำน้ำสายต่างๆ มีระดับสูงและดินชุ่มน้ำอยู่แล้ว หากมีฝนตกต่อเนื่องอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ จึงได้ประสานให้จังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ระยะนี้เกิดฝนตกหลายพื้นที่ โดยเฉพาะหลายจังหวัดบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น ทำให้ลำน้ำสายต่างๆ มีระดับสูงและดินชุ่มน้ำอยู่แล้ว หากมีฝนตกต่อเนื่องอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลากและดินถล่มได้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสาน 9 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง และพิจิตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น และภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และจันทบุรี รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 3 ปราจีนบุรี 6 ขอนแก่น เขต 10 ลำปาง เขต 17 จันทบุรี และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศและปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่อย่างใกล้ชิดเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักต่อเนื่องให้ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกชุกหนาแน่นในระยะนี้ พร้อมตรวจสอบเขื่อน ฝายอ่างเก็บน้ำ คันกั้นน้ำให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง กรณีสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด หมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติจะได้อพยพหนีภัยทันท่วงที ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th